เลขาธิการสหประชาชาติกังวล ตำรวจไทยใช้ปืนฉีดน้ำ สลายชุมนุมโดยสงบ

เลขาธิการสหประชาชาติกังวลเหตุตำรวจไทยใช้ปืนฉีดน้ำสลายการชุมนุมบริเวณรัฐสภา ขณะที่หน่วยงานสิทธิมนุษยชนแนะรัฐบาลไทยฟังคำแนะนำพร้อมเร่งสอบสวนเหตุรุนแรง

นายสตีเฟ่น ดูจาร์ริค โฆษกประจำตัวนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติเปิดเผยว่า เลขาธิการสหประชาชาติแสดงความกังวลเมื่อวันพุธ (18 พ.ย.) ถึงสถานการณ์สิทธิมนุษยชนและการใช้กำลังต่อผู้ชุมนุมโดยสงบในประเทศไทย หลังตำรวจไทยใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงใกล้รัฐสภาเมื่อวันอังคาร (17 พ.ย.) ที่ผ่านมา

โดยในการแถลงข่าว โฆษกของนายกูเตอร์เรสระบุว่า นายกูเตอร์เรสรู้สึกไม่สบายใจถึงการใช้อาวุธที่ถูกเรียกว่ามีความร้ายแรงต่ำ (less-lethal weapons) เช่นการใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงต่อผู้ชุมนุมโดยสงบ พร้อมย้ำว่าเป็นเรื่องสำคัญมากที่รัฐบาลไทยต้องระงับการใช้กำลังและให้ความคุ้มครองพลเมืองไทยทุกคน ซึ่งมีสิทธิพื้นฐานที่จะชุมนุมโดยสันติ

นอกจากองค์การสหประชาชาติแล้วยังมีท่าทีจากหน่วยงานสิทธิมนุษยชนอย่างฮิวแมนไรท์วอชที่ประณามการใช้กำลังของตำรวจไทยต่อผู้ชุมนุม โดยใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงและแก๊สน้ำตา จนทำให้มีผู้บาดเจ็บ 55 คน

แถลงการณ์ของฮิวแมนไรท์วอชระบุว่า ตำรวจไม่มีความจำเป็นต้องใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงและแก๊สน้ำตาต่อต้านผู้ชุมนุมโดยสงบ พร้อมย้ำว่าการกระทำดังกล่าวขัดต่อมาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากล ขณะเดียวกันยังอ้างถึงความเห็นของนายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียของฮิวแมนไรท์วอชที่ระบุว่า รัฐบาลไทยควรให้ความสำคัญกับคำแนะนำของเลขาธิการสหประชาชาติ และต้องเร่งสืบสวนเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น รวมทั้งข้อกล่าวหาว่า มีการใช้อาวุธในกลุ่มผู้ชุมนุมฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลด้วย