UN เตรียมส่งผู้สังเกตการณ์ลงพื้นที่เมืองอิซูม หลังมีรายงานพบหลุมฝังศพหมู่กว่า 440 ศพ

สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเตรียมส่งผู้สังเกตการณ์ตรวจสอบกรณีทางการยูเครนเผยพบหลุมฝังศพหมู่ในเมืองอิซูม หลังยึดพื้นที่คืนจากรัสเซีย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ลิซ ทรอสแซล โฆษกสำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติออกมาเปิดเผยในวันนี้ (16 ก.ย.) ว่า ทางสำนักงานกำลังเตรียมการที่จะส่งผู้สังเกตการณ์ไปยังเมืองอิซูม ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน หลังมีรายงานว่า พบหลุมฝังศพหมู่ 440 ศพในเมืองดังกล่าว ซึ่งคาดว่าเสียชีวิตจากการโจมตีของทหารรัสเซีย

“ผู้สังเกตการณ์จะลงพื้นที่โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น” ทรอสแซลระบุ แต่ยังไม่มีการระบุกรอบเวลาที่แน่นอนในการลงพื้นที่ดังกล่าว

ทรอสแซลกล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าศพที่พบถูกฝังรวมกันอยู่ในหลุมเดียวหลายศพ หรือมีการฝังแยกกัน 

ก่อนหน้านี้ เซอร์ฮีย์ โบลวินอฟ หัวหน้าตำรวจสืบสวนของแคว้นคาร์คีฟในยูเครน ได้เปิดเผยกับสำนักข่าวสกายนิวส์ (Sky News) ว่า พบหลุมศพหมู่ฝังร่างผู้เสียชีวิตกว่า 440 ศพในเมืองอิซูมหลุมศพหมู่ในเมืองอิซูม หลังจากที่กองทัพยูเครนยึดพื้นที่คืนมาจากรัสเซียได้ โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ถูกสังหารจากปืนใหญ่ และการโจมตีทางอากาศ

ขณะที่รายงานของสำนักข่าว AP ผู้สื่อข่าวระบุว่า หลุมฝังศพนับร้อยที่ถูกพบบริเวณชายป่านอกเมืองอิซูม บางส่วนมีไม้กางเขนปักไว้เป็นสัญลักษณ์พร้อมระบุตัวเลข แต่ไม่ทราบชื่อว่าผู้เสียชีวิตคือใคร และมีหลุมมีขนาดใหญ่หลุมหนึ่งเขียนไว้ว่า มีศพทหารยูเครน 17 นาย

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รายหนึ่งที่อยู่ในชุดปฏิบัติการเคลียร์พื้นที่ของยูเครนกล่าวว่า ศพทหารในหลุมนั้นน่าจะมีมากกว่า 17 ศพ และอาจจะมากถึง 25-30 ศพ โดยอ้างอิงจากคลิปวิดีโอคลิปหนึ่งของทหารรัสเซียที่เผยแพร่อยู่บนโซเชียลมีเดียซึ่งมีการระบุว่า มีศพทหารมากกว่า 17 ศพอยู่ภายในหลุม

โดยเมืองอิซูม เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ตกเป็นเป้าการโจมตีอย่างรุนแรงของกองทัพรัสเซีย โดยที่ผ่านมามีรายงานว่า อพาร์ตเมนต์นับสิบแห่งภายในเมืองได้ถูกโจมตีด้วยอาวุธหนักจนอาคารพังทลายเป็นซักปรักหักพัง ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นหลักพันคน

ด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ซึ่งได้ลงพื้นที่สำรวจเมืองอิซูมเมื่อวันพุธ (14 ก.ย.) ออกมากล่าวโทษรัสเซียว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของพลเรือนจำนวนมากในพื้นที่ที่กองทัพรัสเซียเข้ายึดครอง โดยเชื่อมโยงเหตุการณ์ล่าสุดนี้กับสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองบูชา พร้อมระบุว่า รัสเซียจะต้องรับผิดชอบต่อความสูญเสียทั้งหมด

ที่มา https://www.reuters.com/world/europe/un-rights-team-ukraine-plans-visit-collective-grave-site-2022-09-16/