SHARE

คัดลอกแล้ว

กระแสที่บริษัทระดับโลก รวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีในสหรัฐ หันไปใช้กลยุทธ์ China plus one เพื่อกระจายการลงทุนไปประเทศอื่นๆ ที่ไม่ใช่แค่การลงทุนเน้นไปที่ ‘จีน’ เพียงหนึ่งเดียวอีกต่อไป แต่ให้มีการลงทุนไปประเทศอื่นด้วย อาทิ อินเดีย เวียดนาม มากขึ้น

ยุทธศาสตร์ China Plus One ที่ผ่านมาคือการที่บริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งที่เคยลงทุนหรือทำธุรกิจกับจีนพยายามลดสัดส่วนการพึ่งพาจีนลงเนื่องจากความไม่มั่นใจในความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ ยังคงมีอิทธิพลในเรื่องนี้ออยู่

ตอนนี้ถ้ามองท่าทีของหลายบริษัทระดับโลกที่มีการลงทุนจำนวนมากในจีนว่าจะไปในทิศทางไหน ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่คาดว่าจะรุนแรงขึ้นไปอีก หลังการคัมแบ็คของโดนัลด์ ทรัมป์ เพราะรู้กันแล้วว่า ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ประกาศจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 60%

แต่ล่าสุด Fast Retailing บริษัทแม่เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าค้าปลีกแฟชั่นระดับโลก UNIQLO ประกาศว่า จีนยังคงมีความสำคัญในธุรกิจ

ทาดาชิ ยานาอิ ซีอีโอของบริษัท Fast Retailing บอกว่า การผลิตในจีนยังคงมีความสำคัญ แม้ว่าบริษัททั่วโลกจะแยกตัวออกจากจีนท่ามกลางเศรษฐกิจที่ซบเซาและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์

ความชัดเจน คือ ซีอีโอเจ้าของแบรนด์ UNIQLO บอกอย่างชัดเจนว่า “ไม่” กับ กลยุทธ์ China plus one

Fast Retailing เป็นเจ้าของ 8 แบรนด์ คือ UNIQLO, GU, Theory, PLST (Plus T), Comptoir des Cotonniers, Princesse tam.tam, J Brand และ Helmut Lang

“พวกเรา Fast Retailing เติบโตไปพร้อมกับอุตสาหกรรมสิ่งทอของจีน…ความสำคัญของประเทศจีนหรือการบริหารจัดการโรงงานต่างๆ ไม่เปลี่ยนแปลง” ยานาอิให้สัมภาษณ์กับสื่อนิกเกอิ เอเชีย และเขายังพูดถึงการจ้างงานคนหนุ่มสาวในจีนอีกหลายหมื่นคนด้วย

ซีอีโอ Fast Retailing กล่าวด้วยว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะไปสร้างโรงงานขนาดใหญ่ในประเทศอื่นเพื่อทดแทนโรงงานในจีน ซึ่งเรามีประวัติการลองผิดลองถูกมายาวนานหลายปี และพบว่าโรงงานในเวียดนามไม่ดีเท่ากับโรงงานในจีน เว้นแต่เราจะส่งคน (ชาวญี่ปุ่น) ไปที่นั่นเป็นจำนวนมาก

โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าของ Fast Retailing มีถึง 211 แห่งอยู่ในประเทศจีน รองลงมาคือในเวียดนาม 61 แห่ง และในบังคลาเทศ 26 แห่ง

มีรายงานว่า Fast Retailing ไม่ได้ชะลอการลงทุนในจีน และพยายามจะทำให้การลงทุนในจีนแข็งแกร่งขึ้นด้วยซ้ำ เพราะมีการส่งผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมสิ่งทอจากญี่ปุ่นไปให้คำแนะนำทางเทคนิคกับโรงงานพันธมิตรในจีน เช่น เทคนิคการย้อมและการตัดเย็บ ซึ่งก็เป็นวิธีเดียวกับที่ส่งไปยังโรงงานในเวียดนามด้วยเช่นกัน

ด้วยเป้าหมายต่อไปของ Fast Retailing คือยอดขาย 10 ล้านล้านเยน และทำให้ ซีอีโอยานาอิ บอกว่า เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องออกไปต่างประเทศและยอมรับบุคลากรที่มีความสามารถจากทั่วทุกมุมโลก ที่ผ่านมา บริษัทได้เร่งขยายกิจการในยุโรปและอเมริกาเหนือและมีรายได้เพิ่มขึ้น 45% และ 33% ตามลำดับสำหรับปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนสิงหาคม

นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะเปิดร้านค้าใหม่ 15 แห่งในยุโรป ซึ่งเป็นบ้านเกิดของคู่แข่ง เช่น Inditex ของสเปน เจ้าของแบรนด์ Zara และ H&M ของสวีเดน

ถ้าฟังจากมุมมอง ซีอีโอ Fast Retailing ที่ให้สัมภาษณ์ไว้ จะเห็นว่า บริษัทฯไม่ได้เอาประเด็นความขัดแย้งทางการค้าและปัญหาภูมิรัฐศาสตร์มาเป็นตัวตั้งในการดำเนินธุรกิจ แต่มองความสำคัญของการขยายตลาดต่างประเทศและการลงทุนในจีนที่เป็นห่วงโซ่อุปทานสำคัญยังคงดำเนินต่อไป นอกเหนือไปจากความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า กำลังซื้อในจีนมีบทบาทสร้างรายได้ให้กับบริษัทอยู่มาก

โดยรายได้จากร้านค้าในจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง และไต้หวันคิดเป็น 22% ของรายได้ประจำปีของบริษัท ซึ่งสูงเป็นอันดับสองรองจากญี่ปุ่นที่มี 30%

ในประเทศจีน Uniqlo ได้ใช้กลยุทธ์การรื้อและสร้างใหม่ โดยปิดร้านค้าที่ตั้งอยู่ในทำเลไม่ดีหรือมีขนาดเล็กเกินไป และเปิดร้านค้าที่ใหญ่กว่าในทำเลที่ดีกว่า แปลว่า Fast Retailing ยังเห็นศักยภาพของกำลังซื้อในจีนว่าสำคัญอยู่แน่นอน

[ จีนได้รับผลกระทบแค่ไหน ]

ถามว่าตอนนี้จีนได้รับผลกระทบจากการชะลอการลงทุนจากต่างประเทศมากแค่ไหน ก็ต้องไปดูบันทึกการขาดดุลการลงทุนจากต่างประเทศของจีน พบว่าขาดดุลเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน

นอกจากนี้พอไปดูตัวเลขการส่งออกจากจีนไปญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และยุโรปก็มีรายงานตัวเลขลดลง

สถานการณ์ในจีนตอนนี้ที่ยังเจอภาวะเศรษฐกิจซบเซาต่อเนื่อง และการแข่งขันการค้าที่กำลังหนักหน่วงขึ้นไปอีก สิ่งเหล่านี้เราจะได้เห็นชัดขึ้นในปีหน้า

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า