UNSC ออกแถลงการณ์ฉบับแรก แสดงความกังวลสถานการณ์ยูเครน พร้อมหนุนแนวทางแก้ปัญหาอย่างสันติ

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเผยแพร่แถลงการณ์ฉบับแรก หลังรัสเซียเข้ารุกรานยูเครน ยืนยันจุดยืนสนับสนุนแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างสันติ 

วันที่ 7 พ.ค. 2565 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ออกแถลงการณ์ฉบับแรกต่อกรณีที่รัสเซียเข้ารุกรานยูเครน ตั้งแต่ปลายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา แสดงความกังวลอย่างยิ่งในเรื่องสันติภาพและความมั่นคงของยูเครน พร้อมกับยืนยันจุดยืนพร้อมสนับสนุนความพยายามของสหประชาติในการหาทางแก้ไขปัญหาอย่างสันติ 

ในแถลงการณ์ของ UNSC ซึ่งร่างโดยนอร์เวย์ และเม็กซิโก ก่อนจะนำมาเสนอต่อที่ประชุมและได้รับมติเอกฉันท์จากสมาชิก ได้ถูกตั้งข้อสังเกตว่าไม่มีการเอ่ยถึงคำว่า ‘สงคราม’ ‘ความขัดแย้ง’ หรือ ‘การบุกรุก’ ดังที่ประเทศสมาชิกหลายประเทศนำมาใช้เรียก ‘ปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซีย’ เนื่องจากที่ผ่านมา รัสเซีย ซึ่งเป็นสมาชิกถาวรของ UNSC ได้ใช้สิทธิ์วีโต้ในการสกัดกั้นความพยายามที่จะรับรองแถลงการณ์ของ UNSC ซึ่งมีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์ต่อรัสเซีย 

ข้อความแถลงการณ์ระบุว่า “คณะมนตรีความมั่นคงมีความกังวลอย่างยิ่งต่อการรักษาสันติภาพและความมั่นคงของยูเครน และขอย้ำเตือนให้ประเทศสมาชิกทั้งหมดยึดมั่นในหน้าที่ภายใต้กฎบัตรแห่งสหประชาชาติ เพื่อระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศด้วยสันติวิธี” พร้อมแสดงการสนับสนุนความพยายามของเลขาธิการสหประชาชาติในการค้นหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างสันติ 

ด้านนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ได้ขานรับแถลงการณ์ดังกล่าว โดยระบุว่า “จะไม่ละความพยายามใดๆ ในการรักษาชีวิต บรรเทาความทุกข์ยาก และค้นหาแนวทางแห่งสันติภาพ” ต่อปัญหาในยูเครน 

ก่อนหน้านี้ คณะมนตรีความมั่นคงได้พยายามที่จะลงมติเรียกร้องให้รัสเซียยุติการโจมตีในยูเครนและถอนทหารออกจากยูเครนทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข แต่มติดังกล่าวถูกปัดตกไปเนื่องจากรัสเซียได้ใช้สิทธิ์ในการวีโต้ ขณะที่จีน อินเดีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ งดออกเสียง

ทั้งนี้ UNSC มีสมาชิก 15 ประเทศ ประกอบไปด้วยสมาชิก 2 ประเภท คือ สมาชิกถาวร 5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส จีน และรัสเซีย และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ โดยสมาชิกถาวรทั้ง 5 ประเทศ จะมีสิทธิ์ในการใช้อำนาจวีโต้ ซึ่งหมายถึงการโหวตไม่เห็นชอบ เพื่อยับยั้งมติใดๆ ของที่ประชุม เท่ากับว่ามติดังกล่าวไม่ได้รับการรับรองจากที่ประชุมและจะถูกปัดตกไป เนื่องจากตามที่ระบุไว้ในกฏบัตรแห่งสหประชาชาติ การตัดสินใจของ UNSC จำเป็นต้องได้รับการเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากสมาชิกถาวรทั้งหมด