SHARE

คัดลอกแล้ว

บลจ.ยูโอบี ชี้ปีนี้ ‘หุ้น’ จะน่าสนใจกว่า ‘ตราสารหนี้’ หลังสหรัฐมีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ย แต่ต้องเลือกหุ้นพื้นฐานดีเพราะความเสี่ยงยังมี ด้านหุ้นไทยสิ้นปีมองที่ 1,480 จุด รอเศรษฐกิจฟื้นเต็มที่ ส่วน AUM ตั้งเป้าเติบโตอีก 10% จากปีก่อน

‘วนา พูลผล’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากตัวเลขเศรษฐกิจโลกในปี 2566 มีการเติบโตที่อยู่ที่ 3.10% และคาดการณ์จะปรับลดลงที่ 2.70% ในปีนี้ และจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3.00% ในปีหน้า 2568

มาจากเศรษฐกิจสหรัฐที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงอย่างชัดเจน และภาคการจ้างงานที่ชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป สนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและมีแนวโน้มที่จะปรับลดลง

[ ปีนี้ ‘หุ้น’ จะกลับมาน่าลงทุน ]

ซึ่งส่งผลให้ในปี 2567 นี้จะเป็นปีที่ภาพการลงทุนจะทิศทางที่ดีกว่าปีที่ผ่านมา เพราะหากมองย้อนไปในปี 2564-2565 เป็นปีที่ดอกเบี้ยขาขึ้น ส่วนปี 2566 เป็นปีที่ดอกเบี้ยพีก และปีนี้จะเป็นปีที่ดอกเบี้ยจะค่อยๆ ถูกปรับลดลงมา ทำให้การลงทุนในหุ้นจะมีความน่าสนใจมากขึ้น 

อย่างไรก็ตามแม้หุ้นจะเริ่มน่าสนใจ แต่ก็ไม่ใช่หุ้นทุกตัวที่จะเติบโตดีเหมือนกันทั้งหมด นักลงทุนยังจำเป็นต้องเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดี โดยวิเคราะห์จากปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental) เป็นหลัก เนื่องจากหลายๆ ตลาดก็ยังมีความเสี่ยงอยู่

สำหรับตลาดหุ้นกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง จากอัตราเงินเฟ้อและภาคการจ้างงานที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง

ส่วนตลาดหุ้นเอเชียมีความผันผวนมากขึ้นหลังจากแนวโน้มการฟื้นตัวจากการเปิดประเทศเริ่มหมดไปและเผชิญกับความท้าทายจากอุปสงค์ภายนอกที่ชะลอตัวลงจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา

[ หุ้นไทยสิ้นปีดัชนี 1,480 จุด ]

ส่วนตลาดหุ้นไทยในปีนี้ก็ยังมีความท้าทายอยู่มาก โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตามดังนี้

1) อัตราเงินเฟ้อที่แม้ว่าจะปรับตัวลดลงแล้วแต่ต้องติดตามดูพัฒนาการว่าจะสามารถปรับตัวลดลงได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่

2) ความสอดคล้องกันระหว่างการดำเนินนโยบายทางการเงินของเฟดที่ต้องสร้างสมดุลระหว่างการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ และการบริหารความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย

3) จับตาดูผลจากแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อ (Credit Conditions) ที่เข้มงวดก่อนหน้านี้มากขึ้น ว่าจะส่งผ่านไปยัง Real Sector มากน้อยแค่ไหน

โดยประเมินดัชนีสิ้นปี 2567 ไว้ที่ 1,480 จุด แต่หากเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดี จำนวนนักท่องเที่ยวกลับเข้ามามากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ รวมถึงภาครัฐที่มีการเบิกจ่ายเร็วขึ้น ประเมินดัชนีไว้ที่ 1,570 จุดก็มีโอกาสขึ้นไปถึง

[ ลดพอร์ตตราสารหนี้ เพิ่มพอร์ตหุ้น ]

บลจ.ยูโอบี มีมุมมองในการบริหารความเสี่ยงท่ามกลางสภาวะที่ความไม่แน่นอนและความผันผวนยังมีอยู่ คือเน้นการกระจายการลงทุนไปยังหลากหลายสินทรัพย์ควบคู่กันไป

โดยแนะนำกลยุทธ์การลงทุนให้ลดน้ำหนักการถือครองเงินสดและตราสารหนี้ภาครัฐระยะสั้นลง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว และให้เพิ่มน้ำหนักในตราสารหนี้ภาคเอกชนทั่วโลกแทนเนื่องจากผลตอบแทนจะมีความน่าสนใจมากกว่า

ในขณะเดียวกันได้เพิ่มน้ำหนักหุ้นกลุ่มประเทศในฝั่งเอเชียที่มีราคาหุ้น (Valuation) ที่น่าสนใจและมีโอกาสที่เม็ดเงินลงทุนจะไหลกลับหลังจากทิศทางดอกเบี้ยและค่าเงินดอลลาร์ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว

[ เป้า AUM ปี 67 เติบโตอีก 10% ]

สำหรับในส่วนของการดำเนินธุรกิจ บลจ.ยูโอบี มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ณ ธันวาคม 2566 อยู่ที่ 248,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (2565) และในปีนี้ตั้งเป้า AUM เติบโตที่ 10% และเติบโตดีกว่าอุตสาหกรรม

โดยแนวทางกลยุทธ์ บลจ.ยูโอบี จะมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนที่เหมาะสมกับแต่ละสภาวะตลาด และให้คำปรึกษาการลงทุนแบบครบวงจร (One-stop advisory services)

ส่วนการขยายธุรกิจในกลุ่มลูกค้าสถาบันจะเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์การเงินแบบองค์รวม มุ่งหวังตอบโจทย์ครอบคลุมทุกมิติด้านการเงิน ที่ไม่ได้จำกัดเพียงแต่การจัดการลงทุนเท่านั้น (Beyond Investment) โดยร่วมมือกันภายใต้เครือข่าย UOB Group และได้นำปัจจัย ESG มาเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บลจ.ยูโอบี อยู่ระหว่างการพิจารณานำเอาแนวคิด Artificial Intelligence (AI) มาใช้ในกระบวนการลงทุนอีกด้วย เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวและเป็นการต่อยอดการพัฒนาอุตสาหกรรมกองทุนของไทยให้มีความยั่งยืนด้วย

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า