ป.ป.ส. ยืนยัน ‘กัญชา’ ปลูกโดยไม่ได้รับอนุญาต ผิดกฎหมาย

ป.ป.ส. ยืนยัน ‘กัญชา’ ปลูกโดยไม่ได้รับอนุญาต ผิดกฎหมาย

จากกรณีเมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา  ‘ศุภชัย ใจสมุทร’ ประกาศปลูกกัญชาไม่ผิดกฎหมาย ใครโดนจับโทรหาพรรคภูมิใจไทย  

วันที่ 11 ม.ค. 2565 นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (รองเลขาธิการ ป.ป.ส.) ในฐานะโฆษก สำนักงาน ป.ป.ส. ได้เปิดเผยถึงกรณีการถูกจับกุมจากการปลูกกัญชา รวมถึงข้อสงสัยว่ากัญชาสามารถปลูกได้อย่างเสรีแล้วหรือยัง หลังจากประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 2564 ซึ่งในหมวดประเภทของยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ ไม่มีชื่อกัญชาอยู่ในยาเสพติดประเภท 5 โดยระบุว่า “ประเภท 5 ยาเสพติดให้โทษที่มิได้เข้าอยู่ในประเภท 1 ถึงประเภท 4 เช่น พืชฝิ่น”

นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร กล่าวว่า แม้ว่าประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่ จะไม่มีชื่อกัญชาอยู่ในยาเสพติดประเภท 5 แต่ประมวลกฎหมายยาเสพติดฯ ใหม่นั้น ได้ประกาศไว้ถึงการระบุชื่อยาเสพติดให้โทษว่า ยาเสพติดให้โทษชื่อใดอยู่ในประเภทใดให้เป็นไปตามกระทรวงสาธารณสุข โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ป.ป.ส. ประกาศกำหนด ซึ่งจากเรื่องดังกล่าว กัญชา ยังคงอยู่ในบัญชียาเสพติดประเภท 5 ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2563 ที่มีผลบังคับใช้อยู่ ยกเว้นวัตถุหรือสาร เฉพาะที่ได้รับอนุญาตให้ผลิตในประเทศ เช่น เปลือก เส้นใย ใบที่ไม่มีช่อดอกติดมา สารสกัด CBD ที่มีสาร THC ไม่เกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก

ดังนั้น การปลูกกัญชาเองโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะกัญชายังเป็นยาเสพติดประเภท 5 โดยแม้ว่า จะปลดล็อกในบางส่วนของพืชกัญชา เช่นเปลือก เส้นใย ใบ รวมถึง สาร CBD แต่มีข้อแม้ว่าส่วนประกอบดังกล่าวต้องมีที่มาจากแหล่งผลิตที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น

โดยผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษ ในประเภท 5 อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 93 ของประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 500,000 บาท ถ้าเป็นการกระทำเพื่อการค้า ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 1,500,000 บาท

ทั้งนี้ การขออนุญาตปลูกกัญชา สามารถทำได้ โดยต้องเป็นหน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ สถาบันอุดมศึกษาที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัย หรือผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่รวมกลุ่มกันจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม หรือสหกรณ์การเกษตร และร่วมกับหน่วยงานของรัฐ เพื่อขออนุญาต ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ หรือ อย. และต้องดำเนินการตามที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น

เอกสารจาก สำนักงาน ป.ป.ส.

‘ศุภชัย ใจสมุทร’ แถลงข่าวอีกครั้ง ชี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการให้ชัดเจน ปม ‘กัญชาถูกกฎหมาย’

ขณะที่อาคารรัฐสภา วันนี้ (10 ม.ค. 2565) นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย แถลงข่าวประเด็นเกี่ยวเนื่องจากที่ได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่อง “กัญชาถูกกฎหมาย ทำไมยังถูกจับ” ทางเฟซบุ๊ก Ganja TV เมื่อวานนี้ (10 ม.ค. 65) โดยระบุถึงการที่ประมวลกฎหมายยาเสพติด 2564 โดยมีผลบังคับใช้ วันที่ 9 ธ.ค. 2564 และได้มีการประกาศใช้บังคับ ส่งผลให้ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ในมาตรา 7 ที่กำหนดให้ “กัญชา” เป็นยาเสพติด ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ยังมีประชาชนถูกจับอยู่

โดยเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา มีคนมาบอกว่า ชาวบ้านปลูกกัญชา 2 ต้น ตำรวจบอกว่า จะดำเนินคดีให้ได้ ซึ่งตนได้ถามตำรวจที่จับกุมว่า รู้ไหมประมวลกฎหมายกัญชาบังคับใช้แล้ว แต่เจ้าหน้าที่บอกไม่ทราบ และแจ้งว่าใช้ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ในการตรวจจับ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทราบว่ามีประมวลกฎหมายยาเสพติดออกมาแล้ว แต่ยังกลับไปใช้กฎหมายเก่าในการจับกุมอยู่ ส่วนกรณีที่มีผู้อ้างว่า ได้ทราบว่าประมวลกฎหมายยาเสพติดมีผลบังคับใช้ แต่เห็นว่ากัญชา ยังไม่ถูกยกเลิกว่าเป็นยาเสพติดประเภท 5 เว้นแต่รัฐมนตรีประกาศว่าไม่เป็นยาเสพติดดังนั้น รัฐมนตรีจะต้องประกาศก่อนว่ากัญชาไม่ใช่ยาเสพติด

ประเด็นนี้มีความเห็นว่า ท่านได้ตีความอย่างขยาย โดยไม่คำนึงว่าหลักการตีความทางอาญานั้นจะต้องตีความโดยเคร่งครัด และต้องตีความตามเจตนารมณ์ของกฎหมายเป็นสำคัญ

พร้อมกันนี้ ขอฝากไปยังหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมได้หารือกันว่า จะมีแนวทางในการดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร จึงวอนขอทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก และขอให้ช่วยสนับสนุนให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นคืนกลับมาโดยเร็ว