SHARE

คัดลอกแล้ว

ตร. เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม ‘ส.ต.ต.นรวิชญ์’ ผู้ต้องหาขี่บิ๊กไบค์ชน ‘หมอกระต่าย’ เสียชีวิต อีก 2 ข้อหา หลังพฐ. ตรวจที่เกิดเหตุพบใช้ความเร็วถึง 108 – 128 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

(พฐ.ตรวจที่เกิดเหตุ 28 ม.ค. 65)

สรุปข้อหา เป็น 9 ข้อหา ดังนี้

1. ขับรถโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย

2. นำรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทาง

3. ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย

4. ไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทาง (ไม่หยุดรถให้คนข้าม)

5. ฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ได้เสียภาษีประจำปี

6. ไม่จัดให้รถในการเดินทางรถมีส่วนควบที่ครบถ้วนตามกฎหมายและใช้การได้ดี

7. ไม่จัดให้มีการประกันภัย ตามพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัย จากรถปี 2535

8. ขับรถเร็วเกินกว่ากำหนด ที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

9. ขับรถโดยไม่คํานึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น

วันที่ 28 ม.ค. 2565 พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และโฆษก บช.น. เปิดเผยถึงกรณีกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐ.) เข้าตรวจสอบพื้นที่ “ทางม้าลาย” บริเวณหน้าโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานความเร็วและข้อมูลทางเทคนิคนำไปประกอบสำนวนคดี หลังเกิดเหตุที่ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจักษุวิทยา ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถูก ส.ต.ต นรวิชญ์ บัวดก ขี่บิ๊กไบค์ชนขณะเดินข้ามทางม้าลายจนเสียชีวิต

จากการตรวจพิสูจน์ความเร็วทางพฐ. ได้ทำการตรวจพิสูจน์เบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว โดยความเร็วในขณะที่ผู้ต้องหาใช้รถจักรยานยนต์แซงรถตู้ พบว่า อยู่ที่ 108 – 128 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งผิดกฎหมายให้ทายความผิด ขับรถเร็วเกินกว่ากำหนด ที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พนักงานสอบสวนจะทำการเรียกตัวผู้ต้องหามาเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม

นอกจากนี้ ยังมีข้อหา ขับรถโดยไม่คํานึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน หากเข้าข่ายความผิดดังกล่าว ก็จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมไปพร้อมกัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้ภายในวันจันทร์ที่ 31 ม.ค. ยืนยันว่า พนักงานสอบสวนสามารถสรุปสำนวนและส่งฟ้องได้ทันตามเวลาที่กำหนด

ส่วนประเด็นการลาราชการเพิ่มเติมของผู้ต้องหา ซึ่งได้ลาแล้วครบกำหนดไปเมื่อวันที่ 27 ม.ค. วันนี้ก็ได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติแล้ว และต้นสังกัดได้ทำการสอบสวนเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย ซึ่งตัวผู้ต้องหาเองได้ทำการลาราชการต่อในวันพรุ่งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29-31 ม.ค.

ส่วนการประชุมของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรุงเทพมหานคร กระทรวงคมนาคม สำนักจราจรและขนส่งกรมการขนส่งทางบก และนักวิชาการด้านความปลอดภัย ซึ่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้ตำรวจนครบาล และตำรวจทั่วประเทศ ทำการสำรวจทางม้าลาย เพื่อเก็บข้อมูลและทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำทางม้าลาย ปรับปรุงให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด

สำหรับทางม้าลายจุดเกิดเหตุ ขณะนี้ ทางกรุงเทพฯ ได้ทำการทาสีเพิ่มเติมบริเวณทางข้าม เพื่อให้เห็นชัดเจนมากขึ้น โดยจะดำเนินการต่อในวันเสาร์และอาทิตย์นี้พร้อมใช้ในวันจันทร์ และจะมีการติดตั้งสัญญาณไฟสำหรับใช้ให้คนกดเพื่อข้ามถนน โดยจะใช้เวลาติดตั้งไม่เกิน 15 วัน รวมถึงทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อทำการตรวจสอบว่า มีรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ไม่หยุดให้คนเดินข้ามหรือไม่ โดยกล้องดังกล่าวจะเชื่อมโยงกับระบบในการออกใบสั่งหากพบผู้กระทำผิดจะทำการออกใบสั่งและส่งไปให้ผู้กระทำผิดเพื่อเรียกมาดำเนินคดี โดยการติดตั้งกล้องจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน

นอกจากนี้ ทางม้าลาย ทั้ง 3,280 ทางทั่วกรุงเทพฯ จะมีการปรับปรุง ติดตั้งสัญญานไฟเพิ่มบริเวณทางแยก ซึ่ง บช.น. ได้ส่งข้อมูลทางแยกที่เสี่ยงอันตรายให้กับกรุงเทพมหานครส่วนหนึ่งแล้ว เพื่อพิจารณาการติดตั้งต่อไป

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า