วัคซีนโควิดไทย ฉีดหนูทดลองได้ผลแอนติบอดี้ขึ้น

ความสำเร็จก้าวเล็กๆ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยผลทดสอบวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ต้นแบบของไทยได้ผลในหนูทดลอง

วันที่ 6 พฤษภาคม 2563 ความคืบการผลิตวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยนักวิจัยไทย ล่าสุด นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่าทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทีมคณะของนายแพทย์เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ซึ่งได้พัฒนาวัคซีนต้นแบบ ที่เรียกว่า DNA วัคซีน มีการทดสอบในสัตว์ทดลอง คือ หนู ด้วยการฉีดวัคซีนต้นแบบเข้าไปหนูทดลอง จากนั้นได้นำเลือดของหนูตัวที่ฉีดวัคซีนต้นแบบมาตรวจว่าภูมิต้านทาน หรือแอนติบอดี้ ขึ้นหรือไม่

ผลการทดสอบทางห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่า หนูที่ได้รับการฉีดวัคซีนต้นแบบที่ทางจุฬาฯพัฒนา มีแอนติบอดี้ขึ้นค่อนข้างดี เป็นที่น่าพอใจ ซึ่งแม้การผลิตวัคซีนในไทยอาจไม่ทันหลายประเทศที่เริ่มผลิตมาก่อนหน้านี้ เช่น จีน แต่ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่เราต้องพยายามพัฒนา และหวังว่าจะประสบความสำเร็จต่อไป

โดยจากนี้จะมีการทดสอบฉีดวัคซีนต้นแบบในสัตว์ทดลองในอีกหลายๆ รูปแบบเพื่อนำเลือดมาตรวจซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าแอนดติบอดี้มีประสิทธิภาพ ได้ขนาดและรูปแบบที่เหมาะสม เป็นความสำเร็จในก้าวเล็กๆ ที่เชื่อว่า จะพัฒนาวัคซีนให้ประสบความสำเร็จได้ โดยเป็นเครื่องมือสำคัญอันหนึ่งที่คนไทยมีศักยภาพในการทำ

ต่อมาวันที่ 7 มิถุนายน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยความคืบหน้าวัคซีนต้นแบบของคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์วิทยาลัยว่า ในการดูภูมิคุ้มกันขึ้นดีหรือไม่ดีนั้น สามารถดูได้จากการเจือจางซีรั่ม ถ้าเจือจางมากและพบการทำลายเชื้อไวรัสโดยภูมิคุ้มกันในซีรั่มลดลง 50 เปอร์เซ็นต์ แสดงว่ามีภูมิคุ้มกันสูงในหนู ซึ่งวัคซีนต้นแบบของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ส่งมาให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจ พบว่า สามารถเจือจางซีรั่มไปถึง 500 เท่า ยังสามารถทำลายเชื้อไวรัสได้ แสดงว่า ในซีรั่มหนูมีภูมิคุ้มกันสูงต่อไวรัสโควิด 19

ทั้งนี้ ขั้นตอนต่อไปวัคซีนต้นแบบนี้จะนำไปทดลองในลิง (ครบกำหนด 14 วันในวันที่ 7 มิถุนายน 2563) และในคนต่อไป