‘ไบเดน’ สั่งแบนไม่ให้กองทัพใช้งานทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเป็นอาวุธต้องห้ามในหลายประเทศ แต่ยังยกเว้นให้ใช้ในคาบสมุทรเกาหลีได้อยู่
รัฐบาลของประธานาธิบดี โจ ไบเดน กลับมาประกาศใช้นโยบายแบนทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (U.S. Anti-Personnel Landmine Policy) อีกครั้งเมื่อคืนนี้ (21 มิ.ย. 2022) เนื่องจากมองว่าเป็นอาวุธที่อาจส่งผลกระทบต่อพลเรือนผู้บริสุทธิ์ในระยะยาวหลังจากการสู้รบจบลง
ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในประเทศที่ต่อต้านการใช้อาวุธชนิดดังกล่าว ซึ่งเป็นอาวุธต้องห้ามตามอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ประเทศส่วนใหญ่ต่างลงนามในอนุสัญญานี้ แต่เมื่อปี 2020 อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กลับประกาศนโยบายสนับสนุนให้กลับมาใช้ทุ่นระเบิดกับคนอีกครั้ง
นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป กองทัพสหรัฐฯ จะไม่สามารถพัฒนา ผลิต หรือจัดหาทุ่นระเบิดสังหารบุคคลมาใช้งานได้อีก และจะไม่ส่งออกอาวุธชนิดนี้ เว้นแต่กรณีที่นำไปทำลายหรือใช้งานนอกพื้นที่สนามรบเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แม้ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐฯ จะกลับมาสั่งห้ามไม่ให้กองทัพใช้งานทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแล้ว แต่ยังมีข้อยกเว้นให้สามารถใช้ได้ในบริเวณคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งสหรัฐฯ จะต้องใช้ในการปกป้องเกาหลีใต้หากถูกเกาหลีเหนือบุกรุก
แม้ว่าทุ่นระเบิดสังหารบุคคลจะเป็นอาวุธที่อันตรายและสามารถทำความเสียหายแบบไม่เลือกเป้าได้ แต่บางประเทศก็ยังคงนำอาวุธชนิดนี้มาใช้งานในปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่นรัสเซีย ที่ไม่ยอมเข้าร่วมในอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และมีรายงานว่าได้นำทุ่นระเบิดไปฝังไว้ในยูเครนหลายจุด จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พลเรือนในยูเครนเสียชีวิต และหลายพื้นที่ไม่สามารถใช้เพาะปลูกได้
https://news.yahoo.com/white-house-announces-near-total-130803985.html