สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำลูก ‘มิน อ่อง หล่าย’ คว่ำบาตรธุรกิจหวังกดดันกองทัพเมียนมา พร้อมเตือนอาจมีมาตรการที่แข็งกร้าวขึ้น หลังมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้ถูกจับกุมจากการต่อต้านรัฐประหารจำนวนมาก
วันที่ 11 มีนาคม 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ขึ้นบัญชีดำ นายออง แป โซน (Aung Pyae Sone) และนางขิ่น ธีรี เธต มอญ (Khin Thiri Thet Mon) ลูกชายและลูกสาวพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา ซึ่งก่อรัฐประหารในเมียนมาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
โดยคำสั่งดังกล่าวจะมีผลให้รัฐบาลสหรัฐฯ มีสิทธิอายัดทรัพย์สินของบุคคลเหล่านี้ที่อยู่ในสหรัฐฯ ขณะเดียวกันยังห้ามพลเมืองอเมริกันทำธุรกิจกับคนเหล่านี้ด้วย
ขณะเดียวกัน นายแอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ทางการสหรัฐฯ อาจมีมาตรการลงโทษบุคคลหรือธุรกิจที่เชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมาเพิ่มเติมอีก พร้อมประณามการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมจนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 53 คน และมีผู้ถูกจับกุมกว่า 1,700 คน
สำหรับธุรกิจของบุตรชายและบุตรสาวของพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ที่ถูกขึ้นบัญชีดำในครั้งนี้ ประกอบด้วยบริษัท A&M Mahar ของนายออง แป โซน ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกให้บริษัทยาต่างชาติเข้าไปทำตลาดในเมียนมา ผ่านการขออนุญาตจากองค์การอาหารและยาของเมียนมา
ส่วนธุรกิจของขิ่น ธีรี เธต มอญ บุตรสาวของพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบทางธุรกิจ คือธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตภาพยนตร์
การตัดสินใจขึ้นบัญชีดำธุรกิจที่เชื่อมโยงกับครอบครัวพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ทำให้หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนอย่างฮิวแมนไรท์ วอช แสดงความชื่นชม แต่ก็ร้องขอให้รัฐบาลสหรัฐฯ มีท่าทีที่แข็งกร้าวมากกว่านี้
ขณะที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า แม้ทางการสหรัฐฯ จะออกมาตรการหลายอย่าง เพื่อระงับการเข้าถึงทรัพย์สินที่เชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมาแล้ว แต่รัฐบาลสหรัฐฯ ก็ยังไม่มีการคว่ำบาตรบริษัท Myanmar Economic Corporation (MEC) และบริษัท Myanmar Economic Holdings Limited (MEHL) ซึ่งมีข้อมูลว่า เป็นบริษัทของกองทัพเมียนมาโดยตรง และอาจเป็นแหล่งเงินทุนให้กับกองทัพเมียนมาสำหรับใช้ในปฏิบัติการที่อาจละเมิดสิทธิมนุษยชน
ก่อนหน้านี้ workpointTODAY เคยสรุปเครือข่ายธุรกิจที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ทั้งในแง่ธุรกิจของกองทัพเมียนมา และธุรกิจภายในครอบครัว ติดตามได้ที่คลิปนี้
