จีนเตือนสหรัฐฯ ส่งสัญญาณผิดๆ ให้กับไต้หวัน จะยิ่งสร้างอันตรายและบ่อนทำลายสันติภาพ

จีนเตือนสหรัฐฯ กำลังส่งสัญญาณผิดพลาดอย่างร้ายแรงให้กับไต้หวัน จะยิ่งทำให้เกิดอันตราย บ่อนทำลายสันติภาพและความสงบสุข

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน พบกับ นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ นอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 77 ณ นครนิวยอร์ก โดยทั้งสองได้หยิบยกประเด็นเรื่องความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นบนเกาะไต้หวันมาเป็นวาระสำคัญในการหารือตลอดระยะเวลา 90 นาที 

กระทรวงต่างประเทศจีนเปิดเผยภายหลังการหารือว่า นายหวังได้กล่าวกับนายบลิงเคนในระหว่างพบกัน เตือนสหรัฐฯ กำลังส่งสัญญาณที่ผิดพลาดขั้นร้ายแรงและเป็นอันตรายอย่างยิ่งให้กับไต้หวัน พร้อมกับย้ำว่า ไต้หวันเป็นปัญหาของจีนที่จะต้องหาทางจัดการแก้ไขด้วยตนเอง และสหรัฐฯ ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาก้าวก่ายไม่ว่าจีนจะใช้วิธีการใดก็ตาม 

นายหวังยืนยันว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้ จีนจำเป็นที่จะต้องต่อต้านและป้องกันความเป็นเอกราชของไต้หวันอย่างจริงจัง ซึ่งเรื่องนี้เป็นกิจการภายในของจีนที่ไม่สามารถมีประเทศใดเข้ามาจัดการได้

ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ออกมาระบุว่า นายบลิงเคนได้ชี้แจงต่อรัฐมนตรีต่างประเทศจีนไปอย่างชัดเจนว่า สหรัฐฯ ยังคงยึดมั่นใจนโยบายจีนเดียวที่มีมาช้านานและไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากนั้น แต่การรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันก็เป็นเรื่องสำคัญที่มิอาจละเลยได้ 

การพบกันระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีนและสหรัฐฯ มีขึ้นในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศทวีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวันเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้กับจีน จนนำไปสู่ประกาศซ้อมรบครั้งใหญ่ด้วยกระสุนจริงรอบเกาะไต้หวัน 

ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ก็ออกมาประกาศชัดว่าพร้อมจะปกป้องไต้หวันจากการรุกรานของจีน และล่าสุดประธานาธิบดีไบเดนเพิ่งออกมาเปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CBS เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมาว่า สหรัฐฯ จะส่งทหารไปปกป้องเกาะไต้หวันหากจีนใช้กำลังทหารเข้ายึดเกาะ ทำให้จีนออกมาตอบโต้อย่างทันควันว่า เป็นการละเมิดหลักการจีนเดียวอย่างร้ายแรง ทั้งยังผิดสัญญาที่ว่าสหรัฐฯ เน้นย้ำอยู่เสมอว่าจะไม่สนับสนุนความเป็นอิสระของไต้หวัน

ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ใช้แนวทางการทูตแบบยืนอยู่ตรงกลางระหว่างจีนและไต้หวัน แม้จะมีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับจีน และได้ยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ปี 2522 แต่ในทางพฤตินัย สหรัฐฯ ยังคงแสดงท่าทีเป็นพันธมิตรรายสำคัญที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด ทั้งยังให้การสนับสนุนและปกป้องไต้หวัน  ขณะเดียวกันก็ยึดมั่นในนโยบายจีนเดียว

ที่มา

https://www.reuters.com/world/us-chinese-foreign-ministers-meet-taiwan-tensions-rise-2022-09-23/

https://www.aljazeera.com/news/2022/9/24/us-sending-dangerous-signals-on-taiwan-china-tells-blinken