ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวในภาคเหนือ จับตาผลกระทบความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกา และ อิหร่าน ล่าสุดเริ่มทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติลดลง ขณะที่ตำรวจ เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยสถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ยังคงใช้มาตรการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด หลังจากประเทศอิหร่านประกาศจะล้างแค้น กรณีนายพลระดับสูงเสียชีวิตจากการถูกโจมตีที่สนามบินในกรุงแบกแดด พันตำรวจเอก ภูวนาถ ดวงดี ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ได้รับการเน้นย้ำจากผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ให้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัย สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ เบื้องต้นจัดกำลังตั้งจุดตรวจสอบตามเส้นทางรอบสถานกงสุลฯ พร้อมทีมลาดตะเวนของตำรวจ หน่วยปฎิบัติการพิเศษ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสถานกงสุลฯ โดยมาตรการนี้จะดำเนินไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกันตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ ยังประสานข้อมูลชาวอเมริกันที่พำนักอยู่ในเมืองเชียงใหม่ ไปยังสำนักงานตรวจค้นเข้าเมือง เพื่อวางแผนรักษาความปลอดภัยด้วย นายนภดล จริภักดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ให้ความเห็นว่า สถานการณ์ความขัดแย้ง ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน จะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยวในภาคเหนือ ทั้งปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น รวมไปถึงผลกระทบอื่นๆ อาทิ จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง เพราะเกรงจะเกิดสงครามและ การก่อการร้าย ปัญหาที่เกิดขึ้น เห็นว่า ภาคธุรกิจท่องเที่ยวต้องปรับตัวในหลายๆ ด้าน ไม่ควรตั้งรับเพียงอย่างเดียว ขณะที่ภาครัฐควรให้การสนับสนุน ด้วยการนำภาคธุรกิจออกไปหาตลาดใหม่ๆ ทดแทน อาทิ ประเทศอินโดนีเซีย หรือ อินเดีย เพื่อช่วยให้ภาคท่องเที่ยวกระเตื้องขึ้น