สถานทูตสหรัฐฯ : ให้ความช่วยเหลือโควิด-19 ไทยแล้ว รวมมูลค่า 1.3 พันล้านบาท

สถานทูตสหรัฐออกเอกสารข้อเท็จจริงเรื่องการสนับสนุนโควิด-19 ในไทย ชี้ให้ความช่วยเหลือรัฐบาลไทยเรื่องโควิด-19 แล่ว รวมมูลค่ากว่า 1.3 พันล้านบาท หนึ่งในนั้นมีการช่วยเหลือเป็นเครื่องช่วยหายใจ ตลอดจนเครื่องมือและอุปกรณ์ รวมมูลค่า 544 ล้านบาท

สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เผยแพร่เอกสารข้อเท็จจริง (fact sheet) เรื่อง “เอกสารข้อเท็จจริง: สหรัฐฯ สนับสนุนไทยในการต่อสู้กับโรคโควิด-19” ผ่านเว็บไซต์ทางการสถานทูต เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564

ข้อมูลส่วนหนึ่งระบุว่ารัฐบาลสหรัฐให้ความช่วยเหลือทางการไทยเรื่องโควิด-19 รวมมูลค่าแล้วกว่า 43.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (1.3 พันล้านบาท) แบ่งออกเป็นการช่วยเหลือมูลค่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 933 ล้านบาท) ที่รวมเครื่องมือเช่น เครื่องช่วยหายใจ หน้ากากอนามัย แว่นตานิรภัย และอุปกรณ์ป้องกัน มูลค่า 17 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 529 ล้านบาท) และความช่วยเหลือเพิ่มเติมที่ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติ สหรัฐฯ (U.S. CDC) มอบเพื่อ “ทำงานเคียงบ่าเคียงไหลกับกระทรวงสาธารณสุขของไทย” อีกกว่า 13 ล้านเหรียญสหรัฐฯ  (ประมาณ 404 ล้านบาท)

เอกสารข้อเท็จจริงนี้ถูกเผยแพร่หลังเกิดข้อถกเถียงเรื่องการรับบริจาควัคซีนจากสหรัฐอเมริกาผ่านโครงการ COVAX ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศกรอบความร่วมมือเว่าจะมีการแบ่ง “แบ่งปัน” วัคซีน จำนวน 80 ล้านโดสทั่วโลก ซึ่งในแผนการส่งมอบวัคซีน 25 ล้านโดสแรก จะมีวัคซีนจำนวน 7 ล้านโดสที่มอบให้กับประเทศต่างๆ ในเอเชีย รวมถึงประเทศไทย กำหนดเสร็จสิ้นก่อนสิ้นเดือนมิถุนายน

นอกจากนี้เอกสารดังกล่าวยังระบุความร่วมมือสหรัฐ-ไทย ต่อการแก้ไขโควิด-19 ในระดับต่าง ๆ เช่น การพัฒนาแผนเฝ้าระวัง ดำเนินการตรวจโรคโควิด-19 และมอบความช่วยเหลือให้แก่ผู้ลี้ภัยที่มีค่ายอยู่ตามแนวชายแดนไทย การดำเนินการรณรงค์เรื่องการป้องกันโควิด-19 ในหมู่ผู้อพยพและกลุ่มเปราะบางในไทย  ร่วมพัฒนาแอปพลิเคชัน “พ้นภัย” สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อช่วยให้ประชาชนที่ต้องกักตัวอยู่ใน 69 จาก 77 จังหวัดได้รับการแจกจ่ายน้ำดื่มและชุดยังชีพ 188,203 ชุด (มูลค่าเกือบ 4 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 124 ล้านบาท) ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขของไทยศึกษาวิจัยโครงการการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อประเมินความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติตนในการฉีดวัคซีนในกลุ่มประชากรหลัก ตลอดจนร่วมมือกับภาคีชาวไทยศึกษาวิจัยวัคซีนในประเทศเพื่อเร่งรัดความพยายามในการสร้างวัคซีนในไทย