สหรัฐฯ ขวางออกแถลงการณ์ หลังคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น หารือความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์

สหรัฐฯ ขวางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ออกแถลงการณ์ร่วมต่อสถานการณ์ระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ที่กำลังตึงเครียด โดยล่าสุดทั้งสองฝ่ายยังโจมตีกันต่อเนื่อง จนมีผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาแล้วอย่างน้อย 65 คน และในอิสราเอล 7 คน

วันที่ 13 พ.ค. 2564 สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานอ้างแหล่งข่าวเป็นนักการทูตหลายคนยืนยันว่า สหรัฐฯ เป็นเพียงชาติเดียวในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ที่ออกมาคัดค้านการออกแถลงการณ์ร่วม หลังการประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์อิสราเอล-ปาเลสไตน์ ที่กำลังรุนแรงอยู่ในขณะนี้

รายงานระบุว่า การประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จัดขึ้นเมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) โดยผลการประชุม สมาชิกทั้งหมด 14 จาก 15 ประเทศ เห็นพ้องให้ที่ประชุมออกแถลงการณ์ร่วม เรียกร้องให้ยุติความตึงเครียด อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ เป็นเพียงชาติเดียวที่คัดค้าน โดยให้เหตุผลว่า การเรียกประชุมฉุกเฉินน่าจะเป็นท่าทีที่เพียงพอแล้วถึงการแสดงออกว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกำลังกังวลเรื่องนี้อยู่

สหรัฐฯ ยังให้เหตุผลด้วยว่า การออกแถลงการณ์ร่วมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ไม่น่าจะมีส่วนช่วยให้สถานการณ์คลายความรุนแรงลงอีกด้วย

รายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี ตรงกับรายงานของสื่ออีกหลายสำนัก เช่น สำนักข่าว Anadolu ของตุรกี และเว็บไซต์ The Time of Israel ซึ่งเป็นสื่อท้องถิ่นของอิสราเอล ก็รายงานอ้างแหล่งข่าวไปในทิศทางเดียวกัน

แม้การขัดขวางของสหรัฐฯ จะส่งผลให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมได้ แต่ในเวลาต่อมา 4 ชาติสมาชิกจากยุโรป ได้แก่ นอร์เวย์ เอสโตเนีย ฝรั่งเศส และไอร์แลนด์ ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกัน โดยมีเนื้อหาประณามความรุนแรงจากทั้งสองฝ่าย

แถลงการณ์ของ 4 ชาติยุโรประบุว่า ทั้งการยิงจรวดจากฉนวนกาซา โดยกลุ่มฮามาสเข้าไปยังอิสราเอล รวมทั้งการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในพื้นที่ฉนวนกาซา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เป็นเรื่องที่น่ากังวลและรับไม่ได้ ขณะเดียวกันยังเรียกร้องให้กลุ่มฮามาสยุติการยิงจรวดเข้าไปในอิสราเอลทันที พร้อมกับเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการทำลาย ลิดรอนสิทธิต่างๆ ในพื้นที่เยรูซาเล็มตะวันตก ซึ่งเป็นจุดที่เกิดกรณีกับชาวปาเลสไตน์

ขณะที่ท่าทีจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาตินับจากนี้ ชาติสมาชิกจะจัดประชุมขึ้นอีกครั้ง โดยจะเป็นการประชุมแบบเปิดเผยต่อสาธารณะในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐฯ โดยนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเจรจากับทุกฝ่าย และสิ่งสำคัญที่สุดคือทุกฝ่ายต้องลดความรุนแรงลง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯ ยืนยันว่า สนับสนุนสิทธิของอิสราเอลต่อการป้องกันตัวเอง ขณะที่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพิ่งโทรศัพท์คุยกับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลเมื่อวานนี้ (12 พ.ค.)

สำหรับความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ล่าสุด ทั้งสองฝ่ายยังปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มฮามาส ซึ่งปกครองฉนวนกาซาที่ยังยิงจรวดเข้าไปในอิสราเอล ขณะที่ฝ่ายอิสราเอลก็เดินหน้าโจมตีทางอากาศฉนวนกาซา โดยรายงานล่าสุดระบุว่า มีผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาแล้วอย่างน้อย 65 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 14 คน ขณะที่มีชาวอิสราเอลเสียชีวิตจากการปะทะกันแล้ว 7 คน