SHARE

คัดลอกแล้ว

สหรัฐฯ และญี่ปุ่น พร้อมใจเอ่ยนาม ‘ไต้หวัน’ ในแถลงการณ์ร่วมเป็นครั้งแรกในรอบ 52 ปี จนหลายฝ่ายจับตาปฏิกิริยาตอบโต้จากรัฐบาลจีน ซึ่งอ้างสิทธิ์เหนือไต้หวันมาตลอดว่า มีสถานะเป็นมณฑลหนึ่งของจีน

วันที่ 17 เมษายน 2564 เว็บไซต์ Straits Times รายงานถึงการพบกันระหว่างนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับนายโยชิฮิเดะ ซูกะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ทำเนียบขาว ซึ่งนำไปสู่การออกแถลงการณ์ร่วมกันระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่นเมื่อวานนี้ (16 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ ที่มีการเอ่ยนามถึง ‘ไต้หวัน’ เป็นครั้งแรกในรอบ 52 ปี

โดยแถลงการณ์ร่วมระหว่างรัฐบาลทั้งสองประเทศ ได้เรียกร้องให้เกิดสันติภาพและเสถียรภาพในคาบสมุทรไต้หวัน เป็นท่าทีที่ชัดเจนว่า ต้องการส่งสัญญาณถึงรัฐบาลจีน ซึ่งเปิดปฏิบัติการทางทหารใกล้กับไต้หวันบ่อยครั้งในระยะหลัง

ท่าทีของรัฐบาลสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ยังสะท้อนถึงการกลับมาให้ความสำคัญกับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกของรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่เดินทางเยือนสหรัฐฯ ในยุครัฐบาลโจ ไบเดน ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19

ผู้นำสหรัฐฯ และญี่ปุ่นยืนยันถึงการเป็นหุ้นส่วนสำคัญที่จะขับเคลื่อนแนวทางประชาธิปไตยในศตวรรษที่ 21 โดยนอกจากประเด็นคาบสมุทรไต้หวันแล้ว ผู้นำทั้งสองชาติยังกล่าวถึงความท้าทายจากจีน ทั้งประเด็นทะเลตะวันออกทะเลจีนใต้ และกรณีเกาหลีเหนืออีกด้วย

ที่ผ่านมาจีนอ้างสิทธิ์ว่ามีสถานะเป็นมณฑลหนึ่งของจีน ขณะที่ทางการไต้หวันยืนยันว่า เป็นประเทศที่มีอธิปไตยเป็นของตัวเอง แต่ความขัดแย้งดังกล่าวทำให้นานาชาติสงวนท่าทีในการรับรองสถานะของไต้หวัน ซึ่งการเอ่ยนาม ‘ไต้หวัน’ อย่างตรงไปตรงมาในแถลงการณ์ร่วมระหว่างสหรัฐฯ กับญี่ปุ่น ทำให้หลายฝ่ายจับตาท่าทีโต้กลับของจีน รวมถึงแนวโน้มที่สถานการณ์ในคาบสมุทรไต้หวันอาจยิ่งตึงเครียดมากขึ้น

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า