สหรัฐฯ จ่อยกเลิกข้อกำหนดแสดงผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ สำหรับนักเดินทางขาเข้าประเทศ

สหรัฐฯ เตรียมยกเลิกข้อกำหนดให้แสดงผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ สำหรับผู้โดยสารเครื่องบินขาเข้าประเทศ ซึ่งบังคับใช้มานาน 17 เดือน หลังได้รับแรงกดดันหนักจากอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่า การยกเลิกข้อกำหนดให้แสดงผลตรวจโควิด-19 เป็นลบสำหรับผู้โดยสารสายการบิน จะมีผลตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 12 มิ.ย. เป็นต้นไป หลังจากที่ได้ผ่านมาพิจารณามาแล้วว่ามาตรการดังกล่าวไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป โดย CDC จะประเมินการตัดสินใจอีกครั้งว่าจะต้องกลับมาใช้มาตรการนี้อีกหรือไม่ในอีก 90 วันข้างหน้า

ภายใต้มาตรการที่กำลังจะมีผลบังคับใช้นี้ แม้จะมีการยกเลิกข้อกำหนดให้แสดงหลักฐานการตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นลบภายใน 24 ชั่วโมงก่อนเดินทางไปยังสหรัฐฯ แต่นักเดินทางต่างชาติยังต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อเดินทางเข้าสหรัฐฯ แต่มีข้อยกเว้นให้ในบางกรณี

ทั้งนี้ มาตรการสกัดการระบาดของโควิด-19 ด้วยการกำหนดให้นักเดินทางจากต่างประเทศต้องแสดงผลตรวจเชื้อไวรัสเป็นลบ ซึ่งประกาศใช้มาตั้งแต่รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากบรรดาบริษัทสายการบิน และถูกผลักดันให้ยกเลิกมาหลายครั้ง โดยให้เหตุผลว่าส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว ซึ่งได้รับความเสียหายหนักจากการระบาดใหญ่มาแล้ว

CDC เปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นถึงสาเหตุของการตัดสินใจยกเลิกข้อกำหนดแสดงผลการตรวจโควิด-19 สำหรับนักเดินทางต่างชาติว่า “ขณะนี้สถานการณ์การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ได้เปลี่ยนไปแล้ว เนื่องจากมีการฉีดวัคซีนป้องไวรัสที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างแพร่หลาย ขณะเดียวกันความพร้อมในการรักษาก็มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งชาวอเมริกันยังคงมีภูมิคุ้มกันทั้งจากการวัคซีนและการติดเชื้อในอัตราที่สูงขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตทั่วสหรัฐฯ ให้น้อยลง”

อย่างไรก็ตาม CDC ย้ำว่า อาจมีการตัดสินใจกลับมาใช้มาตรการนี้อีกครั้ง หากมีไวรัสสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นมาอีก แต่เชื่อว่าการฉีดวัคซีนและศักยภาพของระบบสาธารณสุขจะช่วยให้ข้อกำหนดผ่อนคลายลงไปจากเดิม