เรือรบสหรัฐฯ โผล่น่านน้ำไต้หวัน กองทัพปัดเป็นปฏิบัติการปกติ ไม่เกี่ยวแผนเดินทาง ‘เพโลซี’

สหรัฐฯ เคลื่อนเรือรบ 4 ลำประจำการในน่านน้ำทางตะวันออกของไต้หวัน ระบุเป็นการแปรกำลังพลตามปกติ ท่ามกลางกระแสข่าวประธานสภาผู้แทนราษฎร ‘แนนซี เพโลซี’ จะเดินทางเยือนไต้หวันคืนนี้

สถานการณ์ล่าสุดบริเวณช่องแคบไต้หวันในขณะนี้ หลังจากที่มีรายงานว่าจีนได้ส่งเครื่องบินรบและเรือรบเข้าประจำการใกล้เส้นกึ่งกลางในช่องแคบไต้หวันตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ (2 ส.ค.) เพื่อคุมสถานการณ์หลังมีกระแสข่าวออกมาว่า นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างภารกิจเดินทางเยือนเอเชียอย่างเป็นทางการ จะแวะกรุงไทเปของไต้หวันคืนนี้ (2 ส.ค.) ก่อนเข้าพบประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ในวันพรุ่งนี้ (3 ส.ค.)

สำนักข่าวรอยเตอร์สออกมาเปิดเผยว่า มีการเคลื่อนเรือรบรวมถึงเรือบรรทุกเครื่องบินของกองทัพสหรัฐฯ จำนวน 4 ลำ เข้าไปประจำการบริเวณน่านน้ำทางตะวันออกของไต้หวัน ซึ่งแหล่งข่าวจากกองทัพเรือชี้ว่า เป็นภารกิจการแปรกำลังพลตามปกติของกองทัพเรือที่ดำเนินการอยู่เป็นประจำ

จากรายงานของรอยเตอร์ส แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่จากกองทัพเรือสหรัฐฯ ยืนยันว่า เรือบรรทุกเครื่องบิน USSR Ronald Reagan ได้เดินทางผ่านทะเลจีนใต้ โดยขณะนี้ประจำการอยู่ในทะเลฟิลิปปินส์ ทางตะวันออกของไต้หวันและประเทศฟิลิปปินส์ และทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น

แหล่งข่าวเผยว่า เรือบรรทุกเครื่องบิน USS Ronald Reagan ซึ่งมีฐานประจำการอยู่ในญี่ปุ่น กำลังปฏิบัติการด้วยเรือลาดตระเวนติดอาวุธนำวิถี USS Antietam และเรือพิฆาต USS Higgins และแม้ว่าเรือรบเหล่านี้จะสามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ใดๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ภารกิจดังกล่าวถือเป็นเรื่องปกติที่มีดำเนินการอยู่เป็นกิจวัตร

แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า เรือจู่โจมสะเทินน้ำสะเทินบก USS Tripoli ก็อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจการแปรกำลังพลเข้ามาประจำการในภูมิภาคที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. จากฐานที่เมืองซานดิเอโกของสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม การเข้าประจำการของเรือรบสหรัฐฯ บริเวณน่านน้ำใกล้กับไต้หวันในขณะนี้ได้ถูกจับตาจากนานาชาติว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการเดินทางเยือนไต้หวันของประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แม้จะยังไม่การยืนยันออกมาอย่างเป็นทางการ

ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า จีนได้ส่งเครื่องบินรบหลายลำบินเข้าใกล้เส้นกึ่งกลางในช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตในทางพฤตินัยที่โดยปกติทั้งสองจะไม่บินข้ามเส้นดังกล่าว และถูกมองว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ หลังจากที่มีข่าวการเดินทางเยือนไต้หวันของนางเพโลซี ซึ่งจีนได้ออกมาเตือนว่าจะเป็นการบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน พร้อมทั้งขู่จะใช้มาตรการตอบโต้ขั้นรุนแรงหากการเดินทางดังกล่าวเกิดขึ้นจริง

ขณะเดียวกัน รอยเตอร์สยังระบุด้วยว่า ได้รับการเปิดเผยมาจากประชาชน รวมถึงรูปภาพที่ปรากฏอยู่บนโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในเมืองเซี่ยเหมิน ทางตะวันออกของจีน ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับไต้หวันและเป็นฐานที่มั่นของกองกำลังทหารขนาดใหญ่ว่า มีผู้คนพบเห็นการเคลื่อนย้ายรถหุ้มเกราะ แต่ยังไม่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้ในขณะนี้