สหรัฐฯ พบสายพันธุ์ ‘โอไมครอน’ ถึง 73% ของผู้ติดเชื้อสัปดาห์ก่อน แซง ‘เดลตา’ ขึ้นเป็นสายพันธุ์หลัก

อย.สหรัฐฯ เผย ‘โอไมครอน’ เป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในสหรัฐฯ แล้ว แซงหน้าเดลตาที่ครองอันดับ 1 มานานครึ่งปี

วันที่ 20 ธ.ค. 2564 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานข้อมูลจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (CDC) ที่ระบุว่า เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน กลายเป็นสายพันธุ์ที่ถูกตรวจพบคิดเป็นสัดส่วน 73% ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่ก่อน และแซงหน้าเชื้อเดลตาขึ้นเป็นสายพันธุ์หลักของการระบาดแล้ว

นับตั้งแต่เดือนมิ.ย. เป็นต้นมา สายพันธุ์เดลตาเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดมากที่สุด โดยในช่วงปลายเดือนพ.ย. มีสายพันธุ์เดลตาระบาดคิดเป็น 99.5% ของเคสทั้งหมด 

โดยเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ณ ตอนนั้นยังมีเชื้อโอไมครอนเพียง 3% แต่ภายในระยะเวลาเพียงสัปดาห์เดียว กลับพบการระบาดเพิ่มขึ้นเป็น 73% หรือเกือบ 1 ใน 4 แล้ว 

แม้หลักฐานที่ออกมาในตอนนี้จะชี้ว่าสายพันธุ์โอไมครอนไม่ได้ทำให้เกิดอาการป่วยรุนแรงขึ้นเมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดลตา แต่การที่เกิดการระบาดในวงกว้างยังอาจส่งผลทำให้มีผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นได้

ขณะที่ทางการสหรัฐฯ ขอให้ประชาชนที่มีสิทธิ์ในการเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น ให้รีบไปฉีดเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโอไมครอน โดยทางไฟเซอร์และโมเดอร์นา ซึ่งเป็น 2 วัคซีนหลักที่ใช้ในสหรัฐฯ ต่างออกมายืนยันว่าวัคซีนเข็ม 3 สามารถช่วยเพิ่มแอนติบอดีในการรับมือกับเชื้อโอไมครอนได้