รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ย้ำหลังถูกถามท่าทีอเมริกากำลังสร้าง ‘นาโตเอเชีย’ หรือไม่ ยืนยันเป้าหมายสหรัฐฯ ร่วมกับชาติในภูมิภาคคือสร้างอนาคตที่เสรี เปิดกว้างและปลอดภัย โดยที่แต่ละชาติต้องมีอิสระเลือกอนาคตของตัวเองโดยไม่มีอะไรแอบแฝง
นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงข่าวในวันนี้ (10 ก.ค.) หลังเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ และเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมทั้งนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ในช่วงหนึ่ง ผู้สื่อข่าวถามถึงท่าทีของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อภูมิภาคอินโดแปซิฟิก หลังในช่วงที่ผ่านมาเกิดความกังวลจากบางฝ่ายว่า สหรัฐอเมริกากำลังพยายามขยายอิทธิพลในรูปแบบของ ‘นาโตเอเชีย’ หรือไม่ ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ย้ำว่า แนวทางของสหรัฐฯ คือ สหรัฐฯ และชาติในภูมิภาคนี้มีคำมั่นสัญญาและเป้าหมายในอนาคตร่วมกันบนพื้นฐานที่เสรี เปิดกว้าง และปลอดภัย
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ อธิบายว่า ภายใต้พื้นฐานนี้ แต่ละประเทศต้องสามารถตัดสินใจ กำหนดทิศทางของตัวเอง เกี่ยวกับอนาคตและนโยบายของตัวเอง โดยไม่มีสิ่งใดแอบแฝงไม่ว่าจากใครก็ตาม ทั้งในแง่ผู้คนที่ควรได้รับสิทธิในการใช้ชีวิตได้อย่างเสรี มีอิสระในการพูด รวมถึงมีชีวิตที่ดีกว่าในอนาคต เช่นเดียวกับสินค้าและการลงทุนก็ควรสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างเสรี
รัฐมนตรีบลิงเกนชี้ว่า การบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ ได้ดำเนินการผ่านทั้งความร่วมมือทวิภาคี และกรอบความร่วมมือต่างๆ ตั้งแต่อาเซียน เอเปก รวมถึงกรอบความร่วมมือใหม่ๆ เช่น QUAD ซึ่งประกอบด้วยสหรัฐฯ ญี่ปุ่น อินเดียและออสเตรเลีย และกรอบความร่วมมือเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (Indo-Pacific Economic Framework: IPEF) เน้นไปยังด้านต่างๆ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล เทคโนโลยี รวมไปถึงสร้างความมั่นใจว่าภาครัฐของแต่ละประเทศจะมีประสิทธิภาพ ปราศจากคอรัปชั่น
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ย้ำทิ้งท้ายว่า ความพยายามทั้งหมดนี้ไม่ใช่ข้อเรียกร้องหรือการรบเร้าให้ทำ แต่เป็นสิ่งที่สหรัฐฯ ให้ทางเลือก และแต่ละประเทศมีสิทธิเลือกด้วยตัวเอง
นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ในการเยือนไทยครั้งนี้ได้หยิบยกเรื่องหลักการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนขึ้นมาหารือ รวมถึงพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมา ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มีโอกาสได้พูดคุยกับคนหนุ่มสาวจากเมียนมา เกี่ยวกับกระบวนการประชาธิปไตยในประเทศด้วย
โดยในวันนี้ (10 ก.ค.) รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ และไทย ได้ร่วมลงนามแถลงการณ์ Thailand-United States Communiqué on Strategic Alliance and Partnership เพื่อให้ความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ กับไทยแน่นแฟ้นกันยิ่งขึ้น