สหรัฐฯ จ่อเซ็นสัญญา ‘ไฟเซอร์’ สั่งวัคซีนอีก 500 ล้านโดส นำไปบริจาคให้กับทั่วโลก

รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมสั่งวัคซีนไฟเซอร์เพื่อบริจาคเพิ่มอีก 500 ล้านโดส ขณะที่กำลังจะตัดสินใจฉีดเข็ม 3 ให้กับประชากรในประเทศ

วันที่ 19 ก.ย. 2564 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานโดยอ้างอิงจากแหล่งข่าววงในว่า รัฐบาลของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงกับ ไฟเซอร์ (Pfizer) ในการสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพิ่มอีก 500 ล้านโดส เป็นการเพิ่มจำนวนวัคซีนที่จะนำไปบริจาคให้ทั่วโลกเป็น 2 เท่าจากเดิม

คาดว่าจะมีการประกาศข้อตกลงดังกล่าวอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐฯ เคยสั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์เพื่อบริจาคในลักษณะเดียวกันมาแล้วเมื่อเดือนส.ค. ที่ผ่านมา 

ทางไฟเซอร์จะทำการจัดส่งวัคซีนให้กับโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการกระจายวัคซีนให้กับประเทศที่ขาดแคลน

การบริจาควัคซีนนับเป็นหนึ่งในการแสดงออกทางการทูตที่ชาติมหาอำนาจนำมาใช้ในช่วงวิกฤตโควิด-19 แต่ในอีกแง่หนึ่ง การเสริมภูมิคุ้มกันให้กับประชากรโลกก็เป็นการลดโอกาสการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส ที่อาจกลับมาเล่นงานชาวอเมริกันได้เช่นกัน

ตามรายงานยังได้วิเคราะห์ว่า การบริจาควัคซีนเป็นจำนวนมาก จะช่วยให้สหรัฐฯ ไม่ถูกตำหนิเรื่องการกักตุนวัคซีนไว้ใช้ฉีดกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 ให้กับพลเมืองของตนเอง ในขณะที่หลายประเทศในโลก ผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีนยังไม่มีโอกาสแม้แต่จะฉีดเข็ม 1 เลยด้วยซ้ำ

โดยองค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) กำลังจะตัดสินใจในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ว่าจะทำตามคำแนะนำของคณะกรรมการอิสระที่เสนอให้ทำการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้กับกลุ่มคนอายุ 65 ปีขึ้นไป และกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงหรือไม่