ธนาคารพาณิชย์ที่ไม่มีสาขาในโลกจริง หรือ Virtual Bank ถูกคาดหวังว่าจะมาเป็นหนึ่งในตัวช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย และที่สำคัญคือแนวคิดของธนาคารไร้สาขาที่จะทำให้คนตัวเล็กตัวน้อย ธุรกิจกิจการเล็กๆ เข้าถึงการเงินและสินเชื่อได้ง่ายและสะดวกขึ้น นอกเหนือไปจากประโยชน์ทางธุรกิจอื่นๆ เช่น ในมุมของธนาคารรูปแบบนี้ที่สามารถบริหารต้นทุนให้ถูกลงได้ในระยะยาว
ที่ผ่านมามีการเปิดบริการ Virtual Bank ในหลายประเทศ อาทิ อังกฤษ เยอรมนี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย จีน รวมทั้งเกาะฮ่องกง
สำหรับประเทศไทยกำลังเข้าสู่จุดเริ่มต้นใหม่ที่จะมี Virtual Bank ในอนาอตอันใกล้ หลังจากมี 5 กลุ่มทุนหลัก จับมือพันธมิตรทั้งไทยและต่างประเทศยื่นขอใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยไปแล้ว และจะทราบผลกันในช่วงกลางปี 2568
แม้ Virtual Bank จะเป็นอีกหนึ่งอนาคตและเทรนด์ของเทคโนโลยีทางการเงิน แต่ถ้าไปดูกรณีตัวอย่างในบางแห่งที่ใช้ Virtual Bank ก็พบว่ามีความท้าทายอยู่อีกไม่น้อย อย่างใน ‘ฮ่องกง’ ที่ทำ Virtual Bank มาแล้วราวๆ 4 ปี กลับพบว่ายังไม่มีกำไร
เรื่องราวนี้เป็นอย่างไร TODAY Bizview สรุปให้
[ Virtual Bank ฮ่องกง 8 เจ้าจากนายทุนใหญ่ ]
4 ปีที่แล้ว ‘ฮ่องกง’ เริ่มมีผู้เล่น Virtual Bank อยู่หลักๆ 8 เจ้า คือ ZA Bank, Mox, WeLab Bank, AirStar, PAO Bank, Fusion และ Livi
ทั้งหมดก็มีนายทุนรายใหญ่ๆ เป็นแบ็คอัพ อาทิ Ant Group, Tencent, Xiaomi, Ping An Insurance, Industrial and Commercial Bank of China, Bank of China และ Standard Chartered
ในช่วงปีแรกๆ ที่เริ่มต้น Virtual Bank ไม่ได้ถูกคาดหวังว่าจะทำกำไรได้ เนื่องจากต้นทุนในการดึงลูกค้ายังมีอยู่สูง ขณะที่ในตลาดมีสถาบันการเงินและผู้ให้บริการการเงินมากมายอยู่แล้ว แม้ช่วงโควิด-19 ที่เป็นโอกาสให้ Virtual Bank เติบโต และเมื่อไปดูพบว่ารายได้สุทธิมาจากดอกเบี้ย ซึ่งเป็นความสามารถในการทำกำไรในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยสูง แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ธนาคารมีกำไร หรือพูดง่ายๆ ว่า แม้ช่วงที่ดอกเบี้ยสูง Virtual Bank ก็ยังไม่ได้กำไรจากดอกเบี้ยอยู่ดี
จนปัจจุบันนี้ 8 เจ้าก็ยังไม่ได้กำไรเท่าไรนัก ขาดทุนมาตลอด 4 ปี อ้างอิงจากรายงานผลขาดทุนก่อนหักภาษีรวมกัน 8 เจ้า จะพบว่าในครึ่งแรกของปี 2567 นี้ ขาดทุนรวมไป 1.28 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (5,840 ล้านบาท) แต่ก็ขาดทุนน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งขาดทุนที่ 1.43 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (6,721 ล้านบาท)
นอกจากนี้ Virtual Bank ในฮ่องกงมีผู้ฝากเงินกว่า 2.2 ล้านรายในปี 2566 ซึ่งคิดเป็น 8.8% ของตลาดธนาคารรายย่อยของฮ่องกง แต่หากดูจากอีกมุมมองหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเงินกู้รวม การเบิกจ่ายเงินกู้ รวมถึงจำนวนสินทรัพย์และเงินฝาก Virtual Bank ก็ยังครองตลาดเพียง 0.3% เท่านั้น
[ ZA Bank เริ่มมีกำไรมากสุด เจ้าอื่นยังต้องสู้ต่อ ]
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มของธนาคารไร้สาขาที่ดูเหมือนจะมีกำไรที่สุดคือ ZA Bank เพราะสามารถทำกำไรสุทธิรายเดือนได้ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ธนาคารไร้สาขาอื่นๆ เช่น WeLab และ Mox ยังต้องเผชิญกับปัญหาขาดทุน แม้ว่าจะมีการเติบโตในด้านการปล่อยสินเชื่อและรายได้จากค่าธรรมเนียม แต่ความเสี่ยงทางการเงินและการแข่งขันในตลาดยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ
และเหมือนว่า Virtual Bank ในฮ่องกงบางเจ้าก็เริ่มขยับตัวเองเข้าสู่อุตสาหกรรม Web3 มากขึ้น เพื่อขยายการให้บริการไปยังบริษัทคริปโตฯ และบล็อกเชน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าการขยายนี้จะช่วยเพิ่มรายได้ได้มากน้อยเพียงใด ในอนาคตอาจมีการควบรวมเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในตลาด
สรุปได้ว่า Virtual Bank ในฮ่องกง แม้ดำเนินธุรกิจมา 4 ปีแล้วก็ยังต้องเจอกับอุปสรรคที่ท้าทาย แต่ถึงอย่างนั้นก็มีโอกาสที่จะปรับตัวและสร้างรูปแบบธุรกิจที่สามารถทำกำไรได้
ถึงจุดนี้ต้องมาดูกันต่อว่าในส่วนของบ้านเรา ธุรกิจ Virtual Bank จะมีทิศทางและสร้างประโยชน์ให้กับผู้บริโภคอย่างไรบ้าง มีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลได้ระดับไหน ที่สำคัญมีบทบาทช่วยเอสเอ็มอีไทยได้อย่างไร ต้องจับตา
ที่มา