SHARE

คัดลอกแล้ว

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ‘เวียดนาม’ กลายเป็นประเทศที่ดูเนื้อหอมเศรษฐกิจเติบโตแซงหน้าหลายประเทศในอาเซียน รวมถึงไทยเราด้วย มีบริษัทเทคโนโลยีและบริษัทระดับโลกรายใหญ่หลายรายประกาศลงทุนในเวียดนาม 

ด้วยความที่เวียดนามมีที่ตั้งใกล้จีนและมีท่าเรือน้ำลึกที่สะดวกสำหรับการค้า มาพร้อมค่าแรงขั้นต่ำที่ถูก ผู้คนขยันและแข็งแรง ส่วนทรัพยากรธรรมชาติในประเทศก็ยังไม่ถูกใช้งานมาก รวมทั้งที่ผ่านมารัฐบาลเวียดนามสนับสนุนการศึกษา STEM (Science, Technology, Engineering and Math) อย่างจริงจัง ทำให้มีบุคลากรที่รองรับตลาดแรงงานด้านนี้สูง ส่งผลให้เวียดนามกลายเป็นจุดหมายการลงทุนที่น่าสนใจ

ทำให้ตอนนี้เศรษฐกิจของเวียดนามดีขึ้น จนเกิดเป็นโอกาสให้กับหลายๆ ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะกับธุรกิจ ‘สินค้าหรู’ ที่ใช้อวดฐานะความมั่งคั่ง

[ เมื่อก่อนความเหลื่อมล้ำสูง ปัจจุบันคนเวียดนามมีกำลังซื้อสูง ]

ย้อนกลับไปในปี 1990 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ต่อหัวของเวียดนามอยู่ที่ 122 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4,200บาท) ซึ่งต่ำกว่าประเทศไทยถึง 13 เท่า ฟิลิปปินส์ 7 เท่า และอินโดนีเซีย 6 เท่า ทำให้เวียดนามเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำสูง ผู้คนเข้าถึงอะไรไม่ได้ง่ายๆ การมีบ้านรถหรือของฟุ่มเฟือยกลายเป็นเรื่องไกลตัว 

เมื่อเศรษฐกิจได้รับการเปิดเสรีและการลงทุนจากต่างชาติหลั่งไหลเข้ามา GDP ต่อหัวของเวียดนามก็พุ่งสูงขึ้น จนในปี 2012 GDP สูงเกิน 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 68,351  บาท) และในปี 2018 สูงขึ้นไปอยู่ที่ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 102,526 บาท) กระทั่งปี 2024 เวียดนามแซงหน้าฟิลิปปินส์และเข้าใกล้อินโดนีเซียเข้าไปแล้ว 

เวียดนามกลายเป็นประเทศที่มีการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในอาเซียน ทำให้ปัจจุบันนี้ทั้งอสังหาริมทรัพย์ หรือสินค้าซึ่งเคยถูกมองว่าเป็นของหรูหรา เช่น รถยนต์ เครื่องปรับอากาศ สมาร์ทโฟน และเครื่องสำอางไฮเอนด์ กำลังกลายเป็นเรื่องธรรมดาของคนเวียดนามไปแล้ว

เพราะด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและปัจจัยทางวัฒนธรรมทำให้ชนชั้นกลางระดับสูงในเวียดนามจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนเทียบได้กับประเทศที่เคยพัฒนาไปก่อนหน้านี้ เช่น ไทยและอินโดนีเซีย พูดง่ายๆ ว่าเขาโตแซงหน้าไทยเราไปแล้ว

[ แม้อสังหาริมทรัพย์ราคาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่คนแห่ซื้อเพิ่มเพราะเข้าถึงได้ ]

สำหรับคนเวียดนามแล้วอสังหาริมทรัพย์ถือเป็น ‘สินค้าหรู’ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ข้อมูลจาก Batdongsan ระบุว่าราคาขายเฉลี่ยของบ้านทั่วประเทศ ณ เดือนมิถุนายน 2024 เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับต้นปี 2023 โดยได้รับแรงผลักดันจากตลาดอพาร์ตเมนต์ในกรุงฮานอย 

ขณะเดียวกันในด้านการก่อสร้างจะชะลอตัวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการปราบปรามคอร์รัปชันทั่วประเทศ ทำให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์มีการสร้างคอนโดในฮานอยและโฮจิมินห์ซิตี้เพียง 33,500 ยูนิตในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2024 ซึ่งเทียบกันแล้วก่อสร้างต่ำกว่าปี 2014 

แต่ด้านยอดขายกลับดีเกินคาด ข้อมูลจาก Vinhomes ระบุว่ายอดขายรวมมูลค่า 51.7 ล้านล้านดอง (ประมาณ 72,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 27.3% จากปีก่อนหน้า อธิบายง่ายๆ ว่า อสังหาริมทรัพย์ในเวียดนามสร้างน้อยลง ราคาสูงขึ้น แต่ยอดขายและความต้องการกลับเพิ่มขึ้น

[ มีรถยนต์เป็นของตัวเอง = เป็นคนมีตังค์ในเวียดนาม ]

นอกจากนี้ การเป็นเจ้าของรถยนต์เป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดสำคัญของกำลังซื้อในเวียดนาม ข้อมูลจากกระทรวงการค้าเผยว่าสิ้นปีที่แล้ว มีรถยนต์ 63 คันต่อประชากร 1,000 คน เพิ่มขึ้นสามเท่าจาก 13 ปีก่อน แม้จะยังน้อยกว่าอินโดนีเซีย แต่เวียดนามมีอัตราการเติบโตประจำปีที่เร็วที่สุดในโลกที่ 17% ในช่วงระหว่างปี 2015-2020

ขณะที่บริษัท VinFast ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของเวียดนาม (บริษัทลูกในเครือ VingGroup หนึ่งในธุรกิจรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม) ที่ผ่านมาได้จดทะเบียนในตลาด Nasdaq รายงานยอดขายรถ EV 44,773 คันในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2024 สะท้อนแล้วว่าคนเวียดนามกำลังมีฐานะและเป็นเจ้าของรถยนต์ได้มากขึ้น 

[ วัฒนธรรมความเป็นอยู่ ทำให้คนเวียดนามโตไปพร้อมเศรษฐกิจ ]

สำหรับการเติบโตของคนเวียดนามก็มีปัจจัยหลักๆ ทางวัฒนธรรมที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย อาทิ

        • การอยู่อาศัยร่วมกันหลายรุ่น ครอบครัวในเวียดนามส่วนใหญ่ มีการอาศัยอยู่ด้วยหลายรุ่นช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเช่า ทำให้ครอบครัวสามารถนำเงินไปใช้กับสิ่งอื่น เช่น การศึกษาและความบันเทิง
        • รายได้สองทาง เวียดนามมีอัตราการทำงานของแรงงานชายและหญิงอยู่ที่ 77.8% และ 68.5% ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก พูดง่ายๆ ว่าคนเวียดนามทำงานกันหมดทั้งชายและหญิง น้อยครอบครัวที่จะอยู่บ้านเฉยๆ นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ความเฟื่องฟูของเวียดนามก็จะยังคงมีให้เห็นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อบริษัทใหญ่ๆ จากตะวันตกเข้ามา ผู้คนก็จะได้รับอิทธิพลมากขึ้น แนวคิดเปลี่ยน เศรษฐกิจดี หลอมรวมกันแล้ว คนเวียดนามก็จะมีเงินและมีโอกาสมากขึ้นกว่าเดิมรวมถึงการแสดงสถานะทางสังคมด้วย

ที่มา

        • https://asia.nikkei.com/Spotlight/ASEAN-Money/Luxury-purchases-are-now-mainstream-for-Vietnam-s-booming-consumer-class

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า