สธ. เผย ยอดผู้ป่วยโควิดเริ่มชะลอตัว ควบคุมได้ระดับหนึ่ง จัดหาวัคซีนได้ตามแผน 100 ล้านโดสปีนี้

วันที่ 28 ส.ค. 2564 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ตามแผนรัฐบาลจัดหาวัคซีนช่วงเดือน ก.ย. – ธ.ค. ให้ได้จำนวน 140 ล้านโดสภายในสิ้นปี 2564 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของรัฐบาลเเละกระทรวงสาธารณสุขร่วมกันกำหนดเเผนเดิมต้องฉีดวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดส ครอบคลุมประชากร 50% ภายในปี 2564

ซึ่งเดือน ส.ค. จัดหาได้ 13.8 ล้านโดส แยกเป็น วัคซีนซิโนเเวค 6.5 ล้านโดส เเอสตร้าเซนเนก้า 5.8 ล้านโดส ไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส และคาดการณ์ว่ามีวัคซีนซิโนเเวคเข้ามาอีก 6 ล้านโดสต่อเดือน เเอสตร้าเซนเนก้าช่วง ก.ย.จำนวน 7.3 ล้านโดส ส่วนที่เหลืออีก 3 เดือน มีเเนวโน้มจะส่งได้มากขึ้น เเต่ขั้นต่ำต้องไม่น้อยกว่า ก.ย. เเละไฟเซอร์เข้ามาปลายเดือน ก.ย.จำนวน 2 ล้านโดส ซึ่งให้สัญญากับไทยว่าจะส่งให้ได้ 30 ล้านโดสตามที่ลงนามในสัญญาว่าภายในสิ้นปีนี้ ดังนั้น ทำให้วัคซีนทั้งหมด 3 ยี่ห้อ รวมจำนวน 124 ล้านโดส เเละเมื่อรวมกับโมเดอร์นาเเละซิโนฟาร์ม จะทำให้ยอดรวม 140 ล้านโดส ซึ่งเกินเป้าหมายที่กำหนด

ขณะที่การติดเชื้อภาพรวมในประเทศ ต่างจังหวัด 71 จังหวัด อยู่ที่ 9,994 ราย คิดเป็น 57% กรุงเทพฯปริมณฑลอยู่ที่ 7,659 ราย คิดเป็น 43% ซึ่งมีแนวโน้มพบผู้ป่วยเริ่มชะลอตัวลง สัญญาณต่างๆ น่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ในระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม มีโอกาสที่ผู้ติดเชื้อจะมีโอกาสมากขึ้น ต้องขอความร่วมมือประชาชนในการปฎิบัติตามมาตรการส่วนบุคคล ร่วมกันไปฉีดวัคซีนให้ครบถ้วน

สำหรับในแต่ละจังหวัด กทม. ยังติดเชื้อระดับ 4,000 รายมาเป็นสัปดาห์แล้ว ทำให้สถานการณ์ในภาพรวมไม่พุ่งสูงมากแต่ยังต้องระมัดระวัง รวมถึงพื้นที่ปริมณฑลและภาคกลางบางส่วน เช่น สมุทรปราการ ชลบุรี สมุทรสาคร ตัวเลขยังอยู่ในระดับหลัก 1,000 รายต่อวัน ดังนั้นมาตรการต่างๆ ยังคงเข้มงวดต่อเนื่อง ส่วนต่างจังหวัดมีตัวเลขการติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2-3 ส่วน ส่วนแรกเป็นการเดินทางจากพื้นที่ระบาดกลับบ้านและอยู่ในพื้นที่ ไม่ทราบว่าติดเชื้อ หรือกลับไปรักษาตัวที่ต่างจังหวัด

ขณะที่การตรวจ ATK เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ผลเป็นบวกทั่วประเทศ 2,553 ราย เป็นการตรวจที่ได้ผลรวดเร็วระดับหนึ่ง จะเป็นแนวโน้มที่จะใช้พยากรณ์การระบาดว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะที่ กทม. มีการระบาดค่อนข้างสูง เดิมพบว่าการตรวจ ATK ในจุดต่างๆ กทม. หลายจุดมีแนวโน้มจะพบติดเชื้อค่อนข้างสูงระดับเกิน 10% แต่ระยะหลังเริ่มพบแนวโน้มที่ลดลง เป็นสัญญาณที่ดี แต่ต้องมีมาตรการของหน่วยงานและการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า ผลสรุปการฉีดวัคซีน ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีรายงานการฉีด 915,738 โดส แบ่งเป็นเข็ม 1 จำนวน 547,128 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 361,284 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 7,326 ราย ทำให้ภาพรวมขณะนี้ฉีดวัคซีนไปแล้ว 30,420,507 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 22,617,701 ราย คิดเป็น 31.4% เข็มที่ 2 จำนวน 7,221,368 ราย คิดเป็น 10% เข็มที่ 3 จำนวน 581,438 ราย ขอยืนยันว่า ผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนไปกว่า 30 กว่าล้านโดส ยังไม่มีรายใดที่เสียชีวิตจากวีคซีนโดยตรง

“แนวโน้มการฉีดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และสูงขึ้นในเดือน ส.ค. เนื่องจากมีวัคซีนเข้ามามากขึ้น ถ้าจำได้แผนการฉีดวัคซีนของเราเริ่มต้นเมื่อเดือน มิ.ย. – ส.ค. มีเป้าหมายฉีดให้ได้เดือนละ 10 ล้านโดส ถือว่า ส.ค. ทำได้เกินเป้าหมาย แต่ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการฉีดวีคซีน ต้องเร่งนำวัคซีนเข้ามาและเร่งรัดการฉีดต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่ป่วยแล้วจะมีอาการรุนแรง” นพ.โอภาส กล่าว