หมอมานพ แนะนำ ฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้น รับนักท่องเที่ยวจีน

ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวแนะนำการฉีดวัคซีนกับสำนักข่าว TODAY เพื่อรับมือการเดินทางเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวชาวจีน ว่า ปัจจุบันเราอยู่กับโควิด-19 มา 3 ปี ทุกคนต้องยอมรับว่า เชื้อโควิด-19 จะอยู่กับเราไปนานแสนนาน ทั้งในไทยและทั่วโลก และการที่เราจะใช้ชีวิตอยู่กับมันได้ดีที่สุดคือการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีพอ โดยเชื้อโควิดก็พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ เพื่อการอยู่รอด ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ใหม่ๆ ก็จะเกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆ 

“สิ่งสำคัญมากกว่าการเฝ้ากังวลเรื่องสายพันธุ์ใหม่ๆ คือการสร้างภูมิคุ้มกัน และคอยดูว่าภุมิคุ้มกันที่ร่างกายเรามีสามารถจะรับมือกับการติดเชื้อโควิดได้หรือเปล่า และวิธีการเสริมภูมิคุ้มกันได้ดีที่สุด ก็คือการฉีดวัคซีน ซึ่งจะต้องมีการกระตุ้นเป็นระยะอยู่แล้ว ดังนั้นประชาชนที่ได้รับวัคซีนไปนานแล้ว หรือยังไม่ได้รับเข็มกระตุ้น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง อย่าง ผู้สูงอายุ คนที่มีโรคประจำตัว ควรจะต้องไปฉีดวัคซีน เพื่อยกระดับภูมิคุ้มกันของเราให้สูงพอที่จะรับมือกับเชื้อโควิด-19 ได้” ศ.นพ.มานพ กล่าว

โดยปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงในการฉีดกระตุ้น คือ 1. ระดับภูมิคุ้มกัน เพราะหลังจากฉีดวัคซีนเมื่อเวลาผ่านไประดับภูมิคุ้มกันวัคซีนก็จะลดลง เราต้องเช็กว่าระดับภูมิคุ้มคุ้นกันในร่างกายดีแค่ไหน เช่น เพิ่งรับการฉีดวัคซีนมาไม่นาน หรือเพิ่งติดเชื้อโควิด-19 มาไม่นาน กับ 2. สถานการณ์การระบาด ณ เวลานั้น เช่น การเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจากประเทศที่กำลังมีการแพร่ระบาด หรือช่วงที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด อย่างปลายปีที่ผ่านมา อากาศเย็น คนอยู่ร่วมกันเยอะๆ และกำลังจากมีนักท่องเที่ยวเข้ามา ควรมีการฉีด 

สำหรับประชาชนที่ฉีดเข็มกระตุ้นแล้ว ระยะเวลาที่ควรไปฉีดกระตุ้นมีดังนี้

• ฉีดวัคซีนไปเพียง 2 เข็ม จากข้อมูลเก่าที่มีคือ จะคุ้มกันได้แค่อย่างน้อย 3 เดือน
• ฉีดวัคซีนไปเพียง 2 เข็ม แล้วติดเชื้อ ควรฉีดกระตุ้นหลังเข็มสุดท้ายไปแล้ว 3 เดือน
• ฉีดเข็มกระตุ้นอย่างน้อย 3 เข็ม จะคุ้มกันได้แค่อย่างน้อย 3 เดือน
• ฉีดเข็มกระตุ้นอย่างน้อย 3 เข็ม แล้วติดเชื้อ พบว่า ภูมิคุ้มกันจะป้องกันไปได้นาน 4-6 เดือน

ศ.นพ.มานพ ย้ำว่าปัจจัยหลักไม่ได้อยู่ที่สายพันธุ์แล้ว แต่อยู่ที่ระดับภูมิคุ้นกันของประชาชน แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ การตื่นตัวเรื่องการฉีดวัคซีนกระตุ้นลดลง เพราะระยะเวลาหลังฉีดเข็มสุดท้ายนานเท่าไหร่ ภูมิคุ้มกันก็จะยิ่งลดลงเรื่อยๆ