Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

นพ.โอภาส เผย ไทยฉีดวัคซีนโควิดแล้ว 40 ล้านโดส พบผู้เสียชีวิตจากวัคซีนแค่ 1 ราย

 

วันที่ 11 ก.ย. 2564 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยวัคซีนโควิด 19 แล้วเกือบ 40 ล้านโดส คาดว่าสิ้น ก.ย. นี้น่าจะฉีดได้ 45 ล้านโดส จากการติดตามอาการไม่พึงประสงค์ฉีดวัคซีนโควิด 4 ยี่ห้อที่ใช้ในไทย ใช้มากที่สุดคือ แอสตร้าเซนเนก้า ตามด้วยซิโนแวค ซิโนฟาร์ม และไฟเซอร์ พบว่าผลข้างเคียงคล้ายกัน คือ ไข้ ปวดศีรษะ เวียนหัว ถือว่าไม่รุนแรง พัก 1-2 วัน ทานยาลดไข้แก้วิงเวียนก็ดีขึ้น

 

ขณะที่มีอาการรุนแรงทาง สธ. ได้ติดตามตลอดโดยเฉพาะการแพ้วัคซีน ซึ่งซิโนแวคพบ 24 ราย คิดเป็น 0.1 ต่อแสนโดส รักษาหายปกติทุกราย, แอสตร้าเซนเนก้า 6 ราย คิดเป็น 0.04 ต่อแสนต่อโดสหายเป็นปกติ, ซิโนฟาร์ม 193 ราย คิดเป็น 4.46 ต่อแสนโดส แต่ต้องดูรายละเอียดเพิ่มเติม เพราะการฉีดยังไม่มากพอ

 

ส่วนภาวะลิ่มเลือดอุดตันร่วมกับเกล็ดเลือดต่ำหลังฉีดแอสตร้าเซนเนก้า พบ 5 ราย คิดเป็น 0.03 ต่อแสนโดส ขณะที่ไฟเซอร์พบกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ พบ 1 รายหลังฉีด 1 ล้านโดส คิดเป็น 0.1 ต่อแสนโดส รักษาหายปกติ ภาพรวมถือว่าวัคซีนหลักที่ใช้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

 

ส่วนการเสียชีวิตหลังรับวัคซีนนั้น โดยทั่วไปเมื่อฉีดวัคซีนจะมีการติดตามไป 1 เดือน หากมีอาการผิดปกติเข้า รพ.หรือเสียชีวิต ต้องพิสูจน์ว่าเกิดจากวัคซีนหรือไม่ โดยจะขอชันสูตรเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญพิจารณา จากการฉีดเกือบ 40 ล้านโดส มีรายงานการเสียชีวิต 628 ราย คณะผู้เชี่ยวชาญพิจารณาแล้ว 416 ราย ส่วนใหญ่ คือ 249 รายไม่เกี่ยวกับวัคซีน เช่น ติดเชื้อในระบบประสาท ปอดอักเสบรุนแรง ติดเชื้อในกระแสเลือด มะเร็ง เลือดออกในช่องท้อง และรับประทานเห็ดพิษเสียชีวิต

 

ส่วนอีก 32 รายยังไม่สามารถสรุปได้ และพบเกี่ยวกับวัคซีน 1 ราย คือ ภาวะลิ่มเลือดอุดตันร่วมเกล็ดเลือดต่ำ หลังฉีดไปเกือบ 40 ล้านมีรายเดียวเกี่ยวข้องกับวัคซีนถือว่า มีความปลอดภัย มีประโยชน์มากกว่าเมื่อเทียบกับอาการไม่พึงประสงค์ จึงให้ฉีดต่อไปในระดับประเทศ

 

สำหรับอาการลิ่มเลือดอุดตันร่วมกับเกล็ดเลือดต่ำ (VITT) เป็นกลุ่มโรคใหม่ เกิดได้จากการฉีดแอสตร้าฯ ต่างประเทศพบมาก 0.7 ต่อแสนโดส ไทยพบไม่กี่ราย 0.03 ต่อแสนโดส น้อยกว่าต่างประเทศเกือบ 10 เท่า มีผู้ป่วยสงสัย VITT 5 ราย ยืนยันว่าเป็น VITT รายเดียว เข้าข่าย 2 ราย และสงสัย 2 ราย ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเกิดได้น้อยมาก รักษาหายได้ถ้าวินิจฉัยรวดเร็ว จึงต้องเร่งรัดให้บุคลากรทราบภาวะ VITT เพื่อวินิจฉัยโรครวดเร็ว เพิ่มพัฒนาการตรวจห้องปฏิบัติการ

 

หากฉีดวัคซีนแล้วปวดหัวรุนแรง แขนขาอ่อนแรง ปากหรือหน้าเบี้ยวคล้ายอัมพฤกษ์ เจ็บหน้าอก หายใจติดขัด ขาบวม ปวดท้องรุนแรง หรือพบจุดเลือดออก ภายหลังรับวัคซีน 4 – 30 วัน ควรรีบไปพบแพทย์ และแจ้งว่ารับวัคซีนอะไรเพื่อวินิจฉัยต่อไป

 

ส่วนภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากการฉีดวัคซีน mRNA นั้น เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ ทั้งการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย โรคโควิดก็ทำให้เกิดได้เช่นกัน ประเทศไทยปกติพบ 2 – 3 ต่อแสนคน

 

ส่วนการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 8 แสนกว่าโดส พบ 1 ราย คิดเป็น 0.1 ต่อแสนโดส เป็นชาย มีอาการแน่นหน้าอก ไม่พบติดเชื้ออื่น ไม่รุนแรงรักษาหายปกติ ดังนั้น หากฉีดวัคซีน 4 – 30 วัน มีอาการใจสั่น เจ็บหน้าอก ให้แจ้งแพทย์ดูแลรักษาต่อไป

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า