วีรันดาเตรียมพรีเซล Veranda Pool Villas hua hin-cha am บ้านพักตากอากาศหรู มูลค่าโครงการกว่า 400 ล้าน

นายวีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA ผู้นำธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า แผนธุรกิจปี 2565 บริษัทฯ มุ่งตอกย้ำผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์ โดยวางแผนเปิด โครงการใหม่ ภายใต้แนวคิดการดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของวีรันดา เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่แก่นักท่องเที่ยว

ล่าสุดเตรียมเปิด Pre-sale โครงการ Veranda Pool Villas hua hin – cha am สุดเอ็กซ์คลูซีฟ จำนวน 13 หลัง มูลค่าโครงการกว่า 400 ล้านบาท โดยมีความโดดเด่นที่สระว่ายน้ำดาดฟ้าส่วนตัวและพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ พร้อมสระว่ายน้ำและพื้นที่ Landscape โซนใหม่ของรีสอร์ทไว้ให้บริการกว่า 1,700 ตร.ม.

โดยทำเลของโครงการติดกับวีรันดา รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า หัวหิน ชะอำ เข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการจากรีสอร์ทครบครัน พร้อมเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุน ด้วยรูปแบบการบริหารโดยทีมงานวีรันดา ที่บริหารจัดปล่อยเช่าสร้างรายได้ในช่วงเวลาที่เจ้าของไม่ได้เข้าพัก

สำหรับวีรันดา รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า หัวหิน ชะอำ ถือเป็นรีสอร์ทยอดนิยมสำหรับคนไทยและต่างชาติ ที่เน้นมาพักผ่อนทั้งแบบกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัว มีงานดีไซน์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ มีห้องพักหลายรูปแบบให้เลือก

ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ มีหาดส่วนตัว รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ร้านอาหารชื่อดัง และเดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพด้วยการขับรถเพียงแค่ 2-3 ชั่วโมง จึงเป็นเดสติเนชั่นสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเที่ยวชายทะเลเพื่อการพักผ่อน

ทั้งนี้ พูลวิลล่าของโครงการ Veranda Pool Villas hua hin – cha am ที่กำลังจะเปิดขายมีทั้งหมด 13 หลัง แบ่งเป็น Exclusive Pool Villa พูลวิลล่าแบบ 3 ห้องนอน จำนวน 11 หลัง พื้นที่ใช้สอยประมาณ 481 ตร.ม. และ Penthouse Pool Villa พูลวิลล่าแบบ 5 ห้องนอน 2 หลัง พื้นที่ใช้สอยประมาณ 756 ตร.ม.

โดยโครงการได้เริ่มก่อสร้างแล้วกรกฎาคมนี้ คาดการณ์ว่าจะทยอยแล้วเสร็จตั้งแต่กลางปี 2566 พร้อมเปิดให้ลูกค้า Pre-booking แล้วตั้งแต่วันนี้ และจะมีงาน Pre-Saleในวันที่ 23 – 24 ก.ค. นี้

“Veranda ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการทำธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทและพัฒนาอสังหาฯ ด้วยความโดดเด่นด้านดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ โครงการ Veranda Pool Villas hua hin – cha am เป็นอีกหนึ่งก้าวที่ตอกย้ำการเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯ ที่มุ่งมั่งพัฒนาบ้านพักตากอากาศระดับไฮเอนด์ที่มีบริการระดับ 5 ดาว และมุมพักผ่อนสุดเอ็กซ์คูลซีฟ มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าที่ซื้อบ้านพักตากอากาศเพื่อพักผ่อนและเพื่อการลงทุน โดยบริษัทฯ วางเป้าหมายว่าโครงการมียอดโอนประมาณ 60% ในปีหน้า” นายวีรวัฒน์ กล่าว

สำหรับแนวคิดพัฒนาโครงการดังกล่าว มาจากการยึดตามความต้องการของลูกค้าและสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับการลงทุนอสังหาฯ เพื่อมอบผลตอบแทนที่คุ้มค่าแก่การลงทุน พร้อมทั้งได้นำ Insight ของนักท่องเที่ยวมาต่อยอดพัฒนาโครงการที่เป็นเอกลักษณ์ สร้างสรรค์ประสบการณ์ท่องเที่ยวเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อตอกย้ำแบรนด์วีรันดาเป็นผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์ และ Top Of Mind หรือแบรนด์อันดับหนึ่งในใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ

ซึ่งพบว่า นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงรูปแบบ และไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยววิถีใหม่ ด้วยการเที่ยวเป็นกลุ่มเล็กๆ เน้นความเป็นส่วนตัว (Private & Social Distancing) ที่ใส่ใจด้านสุขอนามัยและห่วงใยสุขภาพตนเองมากขึ้น

ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีกำลังซื้อ ต้องการความเป็นส่วนตัว ท่องเที่ยวแบบจำกัดจำนวน และต้องการท่องเที่ยวแบบยืดหยุ่นเพื่อทำกิจกรรมที่ตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ได้อย่างเต็มที่ หรือการท่องเที่ยวแบบเป็นกลุ่มครอบครัวซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความต้องการบ้านพักอากาศที่ตอบโจทย์ทุกเจเนอเรชั่นทั้งผู้สูงอายุ วัยทำงานและเด็ก รองรับการพักผ่อนทำงาน (Work from anywhere) ส่งผลให้มีดีมานด์บ้านพักตากอากาศสำหรับพักอาศัยเองแบบครอบครัวและซื้อเพื่อการลงทุนสูงขึ้นตามมาด้วย

นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีบริษัทฯ วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 1 โครงการ ภายใต้แบรนด์ ‘วีรันดา’ บนทำเลทอง แหลมพันวา ภูเก็ต เพื่อรองรับตลาดนักท่องเที่ยวที่คาดการณ์ว่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง

ทั้งนี้ สำหรับภาพรวมรวมการดำเนินงานของบริษัทฯ ในครึ่งปีแรกของธุรกิจในเครือทั้ง 7 แห่งในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยว อาทิ วีรันดา รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า หัวหิน ชะอำ (Veranda Resort and Villas Huahin-Cha Am), วีรันดา ไฮ รีสอร์ท เชียงใหม่-เอ็มแกลเลอรี, (Veranda High Resort Chiang Mai – Mgallery), วีรันดา รีสอร์ท พัทยา นาจอมเทียน-เอ็มแกลเลอรี,  (Veranda Resort Pattaya Na Jomtien- Mgallery), โรงแรม โซ แบงคอก (SO Bangkok) ฯลฯ ประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วยอัตราการเข้าพักจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งมาจากความแข็งแกร่งของแบรนด์ VERANDA ในธุรกิจอสังหาฯ โรงแรมและรีสอร์ท ที่มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ตอบสนองไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ และการปรับกลยุทธ์การตลาดรองรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวและปัจจัยการแพร่ระบาดโควิด-19