ชุมพร อดีตแพทย์หญิงถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก สูญกว่าร้อยล้านบาท

เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์มุกเดิม ‘อดีตผอ.ศูนย์แพทย์และลูกสาว’ ร้องตำรวจเอาผิดแก๊งคอลเซนเตอร์ หลังถูกหลอกโทรตุ๋นอ้างมีพัสดุตกค้างอ้าง ภายในเป็นของผิดกฎหมาย เป็นคดีที่ สภ.เชียงราย เจ้าตัวกลัวโดนยึดทรัพย์ ยอมโอนเงินให้สูญกว่า 100 ล้านบาท

แพทย์หญิง ซึ่งเป็นอดีตแพทย์อายุรกรรม โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ชุมพร และอดีต ผอ.ศูนย์แพทย์ศาสตร์ศึกษา ปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้ว และเปิดคลินิกอยู่ใน จ.ชุมพร พร้อมด้วยลูกสาว ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ชุมพร เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา

โดยเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ก.ย. ตัวลูกสาว คือ น.ส.เอ (นามสุมมติ) ได้รับโทรศัพท์อ้างว่า เป็นพนักงานจากบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง แจ้งว่า น.ส.เอ ได้ส่งพัสดุไปหาผู้รับปลายทาง แต่มีการตรวจสอบพบว่า ในกล่องพัสดุนั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และ น.ส.เอ จะถูกดำเนินคดีที่ สภ.เชียงราย จากนั้นคอลเซ็นเตอร์คนดังกล่าวได้แนะนำให้ น.ส.เอ ติดต่อกับคนที่อ้างตัวว่า เป็นตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย

ด้วยความตกใจ น.ส.เอ ได้ติดต่อกับบัญชีไลน์ชื่อ “สภ.เมืองเชียงราย” และได้มีคนร้ายที่ 2 แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย พูดคุยหว่านล้อมให้เชื่อว่า จะต้องถูกดำเนินคดีมีโทษจำคุก จากนั้นคนร้ายที่ 2 ได้แนะนำให้ น.ส.เอ พูดคุยกับ ผกก.สภ.เมืองเชียงราย ผ่านทางบัญชีไลน์ชื่อ “พ.ต.อ.กิตติพงษ์”

จากนั้นคนร้ายที่ใช้บัญชีไลน์ “พ.ต.อ.กิตติพงษ์” ขู่ น.ส.เอว่า อาจจะถูกยึดทรัพย์สิน และมีโทษจำคุก หากไม่ให้ความร่วมมือ แต่หากไม่ต้องการถูกดำเนินคดีให้ น.ส.เอ โอนเงินจากบัญชีเงินฝากทั้งหมดมาให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ

น.ส.เอได้คุยก็ตกใจ จึงนำเรื่องไปปรึกษา นางบี ผู้เป็นแม่ จากนั้นทั้งสองคนจึงได้ใช้บัญชีธนาคารจำนวน 4 บัญชี คือ บัญชีธนาคารกรุงไทย 2 บัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ 2 บัญชี โอนเงินไปให้บัญชีธนาคารของคนร้ายหลายครั้ง และมีบัญชีปลายทางหลายบัญชี ตั้งแต่วันที่ 25-29 ก.ย. 2565 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 101,871,381 บาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ธนาคาร สงสัยได้ติดต่อมายังเจ้าของบัญชีธนาคารทั้ง 2 คน ทราบว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้โอนเงินให้กับคนร้ายจนหมดแล้ว จึงเข้าร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับคนร้ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

ด้าน พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (รองผบช.ภ.8 ) ได้เรียกประชุมติดตามความคืบหน้าคดีในวันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า  เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร สอบปากคำผู้เสียหายทั้ง 2 คน พร้อมรายงานผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น และได้มอบสำนวนคดีโอนให้กับ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโลโลยี (บก.สอท.4) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านดำเนินการสอบสวนติดตามแก๊งคอนเซ็นเตอร์มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป