SHARE

คัดลอกแล้ว

ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) รายใหญ่ของโลกที่รู้ๆ กันอยู่ก็คือ ‘จีนและไต้หวัน’ ซึ่งเป็นฐานผลิตมานานจนชิปกลายเป็นหนึ่งในโปรดักส์ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ

อย่างไต้หวันเองที่เมื่อก่อนเคยเป็นเกาะกำลังพัฒนา แต่เมื่อไต้หวันได้เริ่มปฎิบัติตัวเอง หันมาเสริมสร้างความสามารถในการผลิตสินค้าด้วยการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับเกาะแห่งนั้น การผลิตชิปจึงกลายเป็นกุญแจสำคัญ และทำให้ไต้หวันพ้นจากคำว่า ‘กำลังพัฒนา’ สู่การเป็นเกาะพัฒนาแล้ว

ดังนั้น การจับจ้องไปที่ ‘เวียดนาม’ เวลานี้ก็คงไม่ต่างกับไต้หวันในสมัยนั้น เพราะนักลงทุนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิป เริ่มสนใจและพิจารณาแล้วว่า เวียดนามนี่แหละที่เหมาะกับการเป็นฐานผลิตหน้าใหม่ของพวกเขา

ยิ่งสถานการณ์ความไม่แน่นอนระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาที่คาดเดาไม่ได้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รับตำแหน่งผู้นำประเทศอีกครั้งเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทที่ลงทุนในเรื่องการผลิตชิปในจีนกังวลว่าอาจจะโดนลากแห่ไปด้วย

เวียดนามกลายเป็นที่หลบภัยแห่งใหม่ นักลงทุนตัดสินใจกระจายความเสี่ยง แบ่งการลงทุนบางส่วนออกจากจีน แล้วมาทุ่มเงินทุนเพื่อผลิตชิปในเวียดนาม

[ เวียดนามมีโอกาสสูงเป็นเหมือนจีนหรือไต้หวัน? ]

อาจไม่ใช่เรื่องตื่นเต้นสำหรับการลงทุนผลิตชิปในเวียดนามเพราะศักยภาพของเวียดนามที่นักธุรกิจมองเห็นนั้นเกิดขึ้นมาแล้วตั้งแต่ปี 2022 โดย ‘Samsung’ ได้ประกาศแผนเริ่มผลิตชิปที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง (Ball Grid Array) ที่โรงงานใน Thai Nguyen จังหวัดทางภาคเหนือของเวียดนาม โดยตอนนั้นวางแผนที่จะเริ่มผลิตตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2023 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ เวียดนามยังเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตชิปของบริษัท Intel มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน

บริษัท Synopsys หนึ่งในผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของอเมริกา ก็มีแผนที่จะย้ายฐานการลงทุนและการฝึกอบรมวิศวกรจากจีนมายังเวียดนามด้วย

พอมาปีนี้ หลังจากที่มีการประกาศชื่อประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ได้ไม่นาน รายงานข่าวก็ออกมาเรื่อยๆ เกี่ยวกับแพลนการลงทุนการผลิตชิปที่จะเข้ามาในเวียดนามมากขึ้น

เช่น บริษัท Hana Micron Vina ของเกาหลีใต้ จะลงทุนประมาณ 930.49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเตรียมเปิดสำนักงานใหม่ในเวียดนามเพื่อขยายการส่งออกไปยังชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตั้งใจจะย้ายบางส่วนออกจากจีน

บริษัท Amkor Technology ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ ได้ประกาศแผนลงทุนมูลค่า 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างโรงงานขนาด 200,000 ตารางเมตร เพื่อผลิตและส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ที่ทันสมัยต่อไป โดยอุปกรณ์บางส่วนที่ติดตั้งในโรงงานแห่งใหม่นี้ถูกย้ายมาจากโรงงานในจีน

Intel ที่ก่อนหน้านี้ได้ลงทุนการผลิตชิปไปบ้างแล้ว ปีนี้เพิ่มการลงทุนในโรงงานผลิตชิปแบ็คเอนด์ ซึ่งเคลมไว้ว่าโรงงานผลิตในเวียดนามจะมีขนาดใหญ่ที่สุดเทียบในเครือข่ายทั่วโลก

แม้แต่ บริษัทเทคโนโลยีของเวียดนาม FPT มีกระแสหลุดว่ากำลังสร้างโรงงานทดสอบใกล้กับกรุงฮานอยเกี่ยวกับการผลิตชิป เป็นโรงงานขนาด 1,000 ตารางเมตร และคาดว่าจะพร้อมทดสอบได้ต้นปีหน้าประมาณ 10 เครื่องสำหรับการผลิตชิป

Gu Wenjun หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัยตลาด ICwise ในเซี่ยงไฮ้ ให้สัมภาษณ์กับ Global Times สื่อพิมพ์ของจีนว่า “เวียดนามกำลังกลายเป็นจุดหมายปลายทางใหม่สำหรับอุตสาหกรรมไมโครคอนดักเตอร์ ด้วยจุดแข็งที่เป็นเขตอุตสาหกรรมที่เชี่ยวชาญด้านการทดสอบและการบรรจุวงจร”

หรืออย่าง Steve Long ผู้จัดการทั่วไปของ Intel ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นที่เคยบอกว่า “สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มั่นคงของเวียดนาม รวมไปถึงปัจจัยเรื่องแรงงานรุ่นใหม่ที่มีมาก ทำให้ Intel เอาชนะวิกฤตการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ได้ และมองว่าเวียดนามเป็นฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง”

ซึ่งบริษัทวิจัยตลาดชื่อดังอย่าง Technavio ของสหรัฐฯ ได้ประเมินว่าตลาดชิปของเวียดนามมีศักยภาพที่จะเติบโตได้ถึง 1.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025 และส่งผลให้เศรษฐกิจภายในประเทศแข็งแรง

ดังนั้น มีโอกาสสูงมากๆ ที่จะเห็นเวียดนามพ้นจากการเป็น ‘ประเทศกำลังพัฒนา’ หากเกิดสงครามการค้าระลอกใหม่ จนนักลงทุนที่เคยอยู่ในจีนหรือไต้หวันย้ายการผลิตในเวีดยามเพิ่มอย่างที่ Intel เคยเผชิญ นั่นหมายความว่าตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของเวียดนามแตะ 39-40 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 ตามเป้าหมาย และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2025

 

อ้างอิง:

reuters, vnexpress, vir

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า