SHARE

คัดลอกแล้ว

ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ระหว่างทีมชาติไทย กับทีมชาติเวียดนาม กำลังทวีความดุเดือดทั้งในและนอกสนาม ล่าสุด มีประเด็นเรื่องสื่อเวียดนาม ลักลอบแอบถ่ายการซ้อมของทีมช้างศึก

เรื่องร้อนจนถึง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ ต้องเร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทันที แต่เรื่องนี้ซับซ้อนกว่านั้น เพราะมีการกล่าวหาว่ามีสื่อไทย เป็นคนปล่อยข่าวเองด้วย จนต้องมาอธิบายกันอย่างชัดเจน

เรื่องราวเป็นอย่างไร Workpoint News จะสรุปสถานการณ์ให้เข้าใจใน 18 ข้อ

1) ทีมชาติไทย กับทีมชาติเวียดนาม จะลงแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ที่สนามธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ในวันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายนนี้ โดยเกมนี้ถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะเป็นการดวลกันของทีม โถ 3 (ไทย) และทีมโถ 2 (เวียดนาม) ทีมที่ชนะ จะมีสิทธิไปลุ้นเป็นแชมป์กลุ่มกับ ยูเออี ได้เลย

2) สำหรับทีมชาติไทย มีเฮดโค้ชคนใหม่ คืออากิระ นิชิโนะ จากญี่ปุ่น โดยเกมกับเวียดนาม จะเป็นนัดแรกในการคุมทีมชาติของนิชิโนะด้วย

3) 27 สิงหาคม 2562 ทีมช้างศึกได้เริ่มต้นลงซ้อมครั้งแรกที่ สนามซ้อมวินด์มิลล์ โดยอากิระ นิชิโนะ ให้เวลานักข่าวเก็บภาพเพียง 6 นาทีเศษเท่านั้น โดยเป็นภาพการซ้อมทั่วไป เช่นยืดกล้ามเนื้อ วิ่งวอร์ม ไม่มีการโชว์แท็กติกให้สื่อมวลชนทั้งไทยและเทศ ได้รับรู้แม้แต่คนเดียว

4) 28 สิงหาคม 2562 นิชิโนะ ได้สั่งให้ทีมงานนำรั้วสังกะสีมากั้นรอบสนามฝึกซ้อม เพื่อป้องกันนักข่าวสอดแนม โดยนิชิโนะกล่าวว่า “ยิ่งใกล้วันแข่งมากขึ้น ก็จะเน้นเรื่องของแท็กติกให้มากขึ้น ดังนั้นจึงต้องการซ้อมแบบปิดให้มากที่สุด”

5) 29 สิงหาคม 2562 สื่อเวียดนาม Zing.vn ที่รู้ว่า นักกีฬาไทยซ้อมอยู่ที่สนามวินด์มิลล์ ได้บุกไปยังสนามซ้อม แต่ทว่า ไม่สามารถเห็นการซ้อมของไทยได้ เพราะติดรั้วสังกะสีแบบปิดทึบทั้งหมด นอกจากนั้น พนักงานรักษาความปลอดภัยก็ไม่อนุญาตให้เข้าสนามอีกต่างหาก อย่างไรก็ตามสื่อเวียดนามดังกล่าว มาตำหนิสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยว่า “ไม่อนุญาตให้นักข่าวได้ทำงานของตัวเอง”

6) จากเรื่องนี้ ทำให้ทางสมาคมฯ ต้องระมัดระวังตัว กับการเข้าถึงข้อมูลของสื่อมวลชนเวียดนามมากขึ้น เพราะ ถ้าหากข้อมูลใดๆหลุดไป อาจส่งผลเสียหายใหญ่หลวงต่อทีมชาติไทยในวันแข่งได้

7) 1 กันยายน 2562 ทีมชาติไทยประกาศรายชื่อ 23 ขุนพลทีมชาติ และนิชิโนะ ได้เปลี่ยนสนามซ้อมจากที่สนามวินด์มิลล์ย่านกิ่งแก้ว มาเป็นสนามจริง คือธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ในวันรุ่งขึ้น เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับพื้นหญ้า และความกว้างของ Pitch ส่วนทีมชาติเวียดนาม จะได้ลงซ้อมที่เอสซีจี สเตเดี้ยม สนามของทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

8 ) 2 กันยายน 2562 บรรดาสามแข้งจากเจลีก ทั้งชนาธิป สรงกระสินธิ์ ,ธีราทร บุญมาทัน และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ได้ร่วมซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมด้วยเป็นครั้งแรก โดยอากิระ นิชิโนะ อนุญาตให้สื่อสามารถบันทึกภาพได้เพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้น ในช่วงเริ่มต้นของการฝึกซ้อม จากนั้นจะเป็นการซ้อมแบบปิดล็อกประตูทุกอย่างแบบแน่นหนา เพื่อไม่ให้แท็กติกหลุดรอดไปได้

9) อย่างไรก็ตามนักข่าวชาวเวียดนามรายหนึ่ง จากเว็บไซต์ 24h.com ที่เช่าหอพักรายวันที่อยู่ใกล้สนามแข่งขัน และได้ห้องพักในชั้นที่สูง แถมยังหันหน้าเข้าสนามซ้อมพอดี จึงทำการซูมกล้องระยะไกล และถ่ายภาพเอาไว้ เพื่อเอาไปลงข่าวแบบ Exclusive ในเว็บไซต์ของตัวเอง ในเวลา 20.43 น. ของวันที่ 2 ก.ย. นั้นเอง

10) ที่ไทย ยังไม่มีใครรู้ว่า ภาพการซ้อมแบบปิด หลุดไปถึงสื่อเวียดนาม จนกระทั่ง เวลา 22.45 ช่างภาพผู้ถ่ายรูปดังกล่าว ได้เอาเรื่องนี้มาแซวนักข่าวชาวไทย ที่ทำงานในเพจฟุตบอลสยาม โดยส่งรูปถ่ายไฟล์ดิบให้ดู แล้วพิมพ์ว่า “จากห้องของฉันเอง ฮ่า ฮ่า”

11) เมื่อฟุตบอลสยาม ได้เห็นภาพที่รั่วไหลในการซ้อมหลุดไปถึงสื่อเวียดนาม จึงทำการเบลอภาพดังกล่าว แล้วโพสต์ลงในเพจ FootballSiam (ฟุตบอลสยาม) เวลา 23.00 น. ทันที โดยระบุว่า

“หลุดจากโลกออนไลน์ จากมุมตึกโรงแรมสูงๆ มองเห็นนักเตะทีมชาติไทยซ้อมปิด ณ สนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต คงต้องระวังมากกว่านี้แล้ว”

อย่างไรก็ตาม เอาลงได้เพียงแค่ ไม่กี่นาที ทางเพจก็รีบลบรูปออกไป โดยเข้าใจว่า ได้มีการแจ้งให้สมาคมกีฬาฟุตบอลได้รับรู้ว่า ทีมชาติโดนแอบถ่ายเข้าไปแล้

ขณะที่ ข่าวจากเว็บ 24h.com ก็เอาภาพปัญหาออกจากข่าวเช่นกัน โดยมีการอีดิทแก้ไขในเวลา 00.04 น. หนึ่งชั่วโมงหลังจากที่เพจฟุตบอลสยามลงข่าว

12) อย่างไรก็ตาม ฟุตบอลสยามได้เป็นจำเลยของสังคม ว่าจริงๆแล้ว เป็นคนแอบถ่ายเองหรือเปล่า เนื่องจาก ณ เวลานั้น คนไทยยังไม่เห็นข่าวของทาง24h.com มาก่อนเลย

จึงทำให้ทางเพจฟุตบอลสยามต้องออกมาชี้แจงทันที พร้อมทั้งส่งหลักฐานการสนทนาว่า นักข่าวเวียดนามชื่อ Tuan Huu Pham เป็นคนอินบ็อกซ์เข้ามาเพื่อทำการแซวทีมชาติไทย ดังนั้น ทางฟุตบอลสยามจึงจำเป็นต้องรีบเผยแพร่ทันที เพื่อให้สมาคม และแฟนบอลไทยได้รับรู้ว่า ที่เราตั้งใจจะซ้อมปิด แต่ถูกสื่อเวียดนามล้วงความลับเรียบร้อยแล้ว

13) จากนั้นก็มีชาวเน็ตมาอธิบายว่า สื่อเวียดนามเขาเอารูปซ้อมลับๆลงไปหลายชั่วโมงแล้ว ถ้าไม่ได้ฟุตบอลสยามปล่อยข่าวนี้ ทางสมาคมฯอาจจะยังไม่รู้สถานการณ์ว่า สื่อเวียดนามกำลังทำอะไรลับหลังทีมชาติไทยอยู่

14) 3 กันยายน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ ได้ออกมากล่าวตำหนิสื่อเวียดนามอย่างรุนแรง “เป็นเรื่องของมารยาท ที่ไม่ควรกระทำ แม้ว่าจะมีความต้องการหรือมุ่งมั่นจะได้ชัยชนะ แต่ไม่ค่อยถูกวิธี สิ่งเหล่านี้ไม่น่าเกิดขึ้น ขณะที่ทีมอื่นซ้อมปิดเป็นความลับนั้น คนไทยหรือสื่อไทยก็ไม่มีพฤติกรรมแบบนี้ แม้ว่าอยากให้ทีมชนะ แต่ชนะโดยวิธีที่ไม่ค่อยถูกต้อง มันไม่น่าภาคภูมิใจ”

15) และเนื่องจากทีมชาติไทย ยังจำเป็นต้องซ้อมสำคัญอีก 1 วัน ในวันที่ 4 กันยายน ทำให้ สมาคมฯ ได้ประสานกับโรงแรมที่พัก รอบๆสนามแข่งขันธรรมศาสตร์ โดยให้ย้ายแขกที่ถือพาสปอร์ตเวียดนาม จากชั้นสูงๆ ลงมาอยู่ชั้นล่างให้หมด เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์แอบถ่ายระยะไกลเกิดขึ้นอีก

16) เรื่องนี้เป็นข้อควรระวัง เพราะอย่าลืมว่า ไทยจะยังใช้สนามธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตอีกครั้ง ในการเจอกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในวันที่ 15 ตุลาคม ดังนั้นการได้บทเรียนไว้ก่อน ว่าสื่อต่างชาติ จะพยายามทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้ข่าวสารจากไทย มีสิทธิเกิดขึ้นได้ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังและรอบคอบในทุกด้าน

17) รวมถึงเรื่องดราม่าที่ เพจฟุตบอลสยาม ถูกโจมตีด้วย ทั้งๆที่มีเจตนาที่ดีกับทีมชาติไทย จนพวกเขาต้องออกมาชี้แจงถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ชี้ให้เห็นว่าการได้ข้อมูลที่รอบด้านก่อน เป็นสิ่งที่จำเป็น

18) สำหรับทีมชาติไทย จะแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ในกลุ่ม G เจอกับเวียดนาม เวลา 19.00 น. โดยการเจอกันครั้งสุดท้าย เวียดนามเป็นฝ่ายบุกมาชนะไทยได้คาบ้าน ในรายการคิงส์คัพ

อย่างไรก็ตาม ถ้านับในการเจอกันในเกมทางการ ทีมชาติไทย เอาชนะเวียดนามมาได้ 3 แมตช์ติดต่อกัน สถิติในภาพรวมถือว่าดีกว่า

แม้สื่อทั่วเอเชียจะมองว่าไทยได้เปรียบ แต่ก็ต้องยอมรับว่า นี่ถือเป็นผลการแข่งขันที่คาดเดาผลลัพธ์ยากที่สุดนัดหนึ่งในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกเลยทีเดียว

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า