SHARE

คัดลอกแล้ว

จากกรณีเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 62  ศาลจังหวัดพัทยาได้ออกหมายจับ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ  จำเลยในคดีร่วมกันชุมนุมล้มการประชุมอาเซียน ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2552 เนื่องจาก พ.ต.ท.ไวพจน์ ไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาในวันดังกล่าว โดยส่งทนายความมาขอเลื่อนฟังคำพิพากษา ด้วยเหตุผลว่า อยู่ระหว่างประชุมสภา

4 ธ.ค. พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ เข้าร่วมประชุมสภาแม้มีหมายจับ

โดยศาลเห็นว่า แม้จำเลยจะเป็น ส.ส. แต่คดีนี้เสร็จการพิจารณาแล้ว ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 125 และลักษณะการขอเลื่อนคดีเป็นการประวิงเวลา จึงไม่อนุญาตให้เลื่อนฟังคำพิพากษาศาลฎีกา โดยให้ปรับนายประกัน เต็มตามสัญญาประกัน และให้ออกหมายจับ พ.ต.ท.ไวพจน์ เพื่อมาฟังคำพิพากษา 15 ม.ค. 63

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 15 ม.ค. นี้ จะเป็นการ อ่านคำพิพากษา จำคุก 4 ปี  ให้กับ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ และจะทำให้สิ้นสุดสภาพ ส.ส. ตาม รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 101

แกนนำนปช. ที่พัทยา 2552

ทั้งนี้ ลำดับคดีในชั้นฎีกา ก่อนหน้านี้

11 ก.ย. 62 ศาลจังหวัดพัทยา อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่พนักงานอัยการจังหวัดพัทยา เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง อดีตแกนนำ นปช. กับพวก รวม 12 คน เป็นจำเลย ในข้อหาร่วมกันขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงานที่ไม่ให้มีการชุมนุมเกินกว่า 10 คนขึ้นไป และ ผิด พ.ร.บ.จราจร พ.ศ.2522 กรณีปิดล้อมและล้มประชุมอาเซียน ซึ่งศาลชั้นต้น พิพากษาจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา และศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น วันนั้น มีนายศักดา นพฤทธิ์ จำเลยที่ 10 เดินทางมาศาลเพียงคนเดียว

19 ก.ย. 62  นายสิงห์ทอง บัวชุม, นายพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง, นายพายัพ ปั้นเกตุ และนายนพพร นามเชียงใต้ ได้เข้ามอบตัว

31 ต.ค. 62 ศาลฎีกานัดอ่านคำพิพากษาครั้งที่ 2 ให้กับจำเลยที่ไม่ได้รับหมายเรียกมาฟังคำพิพากษาครั้งแรก 3 คน คือ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ,นายสำเริง ประจำเรือ และนายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ซึ่งทั้ง 3 คน ได้ขอแก้ไขคำให้การเดิมเป็นรับสารภาพ ศาลจึงนัดอ่านคำพิพากษาเป็นวันที่ 3 ธ.ค.

3 ธ.ค. 62 นายสำเริง และนายวรชัย เดินทางไปศาล ซึ่งศาลฎีกามีคำสั่งว่า การแก้ไขหรือเพิ่มเติมคำให้การต้องกระทำก่อนศาลพิพากษา การที่จำเลยมายื่นในชั้นฎีกาเป็นการต้องห้าม ยกคำร้อง ส่วน พ.ต.ท.ไวพจน์ ส่งทนายความขอเลื่อนฟังคำพิพากษา ซึ่งศาลไม่อนุญาตเพราะคดีนี้พิจารณาเสร็จแล้ว การขอเลื่อนคดีมีลักษณะเป็นการประวิงคดี จึงให้ออกหมายจับ และให้เลื่อนฟังคำพิพากษาไปอ่านวันที่ 15 ม.ค. 63 เวลา 09.00 น.

ส่วนจำเลยที่เหลือ คือ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นายธนกฤต หรือวันชนะ ชะเอมน้อย หรือเกิดดี นพ.วัลลภ ยังตรง และนายนิสิต สินธุไพร อยู่ระหว่างหลบหนี

(ภาพจากช่างภาพพรรคพลังประชารัฐที่ส่งให้กับสื่อมวลชน 4 ธ.ค. 62)

4 ธ.ค. 62 พ.ต.ท.ไวพจน์ ได้เดินทางไปที่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อร่วมเป็นองค์ประชุมของฝ่ายรัฐบาล ในการล้มญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศ และคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการใช้อำนาจของหัวหน้าคสช. ตามมาตรา 44 ของฝ่ายค้าน โดย พ.ต.ท.ไวพจน์ ได้แสดงตนเป็นองค์ประชุมด้วย แต่เมื่อถึงขั้นตอนโหวตไม่ได้ร่วมลงคะแนน

(ตำรวจ สน.บางโพ นำหมายจับมายื่นต่อสภาฯ ขอจับกุม พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ)

11 ธ.ค. 62 พ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์ วงษ์หอมหวล ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางโพ นำหมายจับ พ.ต.ท. ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร ไปที่สภาแต่ไม่พบตัว

23 ธ.ค. 62  พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา (ผบช.น.)  ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า  ได้มีหนังสือกำชับในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้ดำเนินการติดตามตัวแล้ว  แต่ยังไม่พบตัวแต่อย่างใด

วันที่ 12 ม.ค. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึง การเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 2 กำแพงเพชร จากกรณีพ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ถูกตัดสินในคดีบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนนั้นว่า พรรคพลังประชารัฐ ยืนยันมีความพร้อม โดยจะเลือกบุคคลที่เหมาะสมที่สุด

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า