อนุทิน มั่นใจไทยไม่ต้องกังวลเชื้อไวรัสจากจีน สุวรรณภูมิเข้มคัดกรอง

ไทยคุ้มเข้มตั้งด่านที่สนามบินสุวรรณภูมิคัดกรองนักท่องเที่ยวจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน หลังพบผู้ป่วยปอดอักเสบคล้ายไวรัสซาร์ส 

หลังจากทางการจีนสั่งการให้มีการสืบสวนกรณีมีผู้ติดเชื่อไวรัสปอดอักเสบปริศนา คล้ายไวรัสซาร์ส ในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน จำนวนรวมแล้ว 44 ราย

วันนี้ (5 ม.ค. 63) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยปลัดกระทรวงและผู้บริหารของทั้งสองกระทรวง เดินทางตรวจมาตรการคัดกรองผู้ติดเชื้อไวรัสปอดอัดเสบจากจีน ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

โดยได้จัดตั้งด่านควบคุมโรค นำเครื่องเทอร์โมสแกนหรือเครื่องตรวจความร้อน และเครื่องวัดอุณหภูมิผู้โดยสารทั้งนักท่องเที่ยวชาวจีน และผู้ที่เดินทางมาจากจีน โดยเฉพาะผู้ที่มาจากเมืองอู่ฮั่น หากพบว่ามีผู้ใดมีอุณหภูมิร่างกายสูงหรือมีไข้ จะทำการคัดแยกออกทันที แล้วนำส่งโรงพยาบาล

สำหรับเที่ยวบินที่มาจากอู่ฮั่น ทางสนามบินดำเนินการไม่ให้ปะปนกับผู้โดยสารอื่น โดยที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีเที่ยวบินจากพื้นที่เสี่ยงวันละ 3 เที่ยว ผู้โดยสารวันละประมาณ 500 คนต่อวัน เช่นเดียวกับท่าอากาศยานดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ตที่ได้จัดทำมาตรการเดียวกัน

นายอนุทิน รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า รัฐบาลได้สั่งการให้ทุกกระทรวงเฝ้าระวังสถานการณ์ระบาดไวรัสจากจีน ตั้งระบบคัดกรองผู้ป่วยที่เป็นพาหะนำไวรัสมาที่ประเทศไทย ขณะนี้ขอให้มั่นใจว่า ประเทศไทยยังไม่มีผู้ป่วยจากไวรัสที่เกิดขึ้นในประเทศจีนซึ่งเป็นไวรัสเกิดจากการสัมผัสสัตว์ ที่พบเป็นเพียงไวรัสไข้หวัดใหญ่ ขอให้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก

รัฐบาลให้ความมั่นใจว่า จะสามารถควบคุมได้ พร้อมสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับนักท่องเที่ยวจีน โดยทุกท่าอากาศยานที่รับเที่ยวบินจากอู่ฮั่น ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่กักกันโรคทำระบบคัดกรอง 100% ตั้งแต่หน้า Gate โดยเฉพาะกลุ่มทัวร์นักท่องเที่ยวจีน กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และสาธารณสุขได้ทำหนังสือไปถึงบริษัททัวร์ และมัคคุเทศน์ เพื่อขอความร่วมมือคัดแยกผู้ที่มีอาการไข้ ไอ จาม และมีน้ำมูก โดยนักท่องเที่ยวจีน จะได้รับนามบัตรที่มีคำแนะนำปฏิบัติตัวเป็นภาษาจีนตั้งแต่บนเครื่อง และได้ขอความร่วมมือให้นักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทางมาจากอู่ฮั่น แจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีหากมีอาการไข้  หรือพบผู้ที่มีอาการไอ หรือจาม

ทั้งนี้สาธารณสุขไทยมีประสบการณ์รับมือไข้หวัดซาร์ และไข้หวัดเมอร์ส  และยังมีประสบการณ์ในการรักษาจนหายได้  ซึ่งหากมีผู้ติดเชื้อไวรัสจีนหลุดระบบคัดกรองไป หากเข้ารับการรักษาทันท่วงที ทางการแพทย์ไทยจะสามารถรักษาได้

สำหรับรายละเอียดไวรัสปอดอักเสบของจีน  ในขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขยังไม่สามารถสรุปได้ว่า ไวรัสดังกล่าวจัดอยู่ในกลุ่มไวรัสซาร์หรือไม่ ซึ่งต้องรอกระบวนการสืบสวนของจีนซึ่งเป็นประเทศต้นทางออกมาให้ข้อมูลที่ชัดเจนเสียก่อน ซึ่งหากได้ข้อมูลครบถ้วนจะแถลงให้รับทราบ

ทั้งนี้ขอประชาสัมพันธ์ ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงโดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุ หากมีอาการเริ่มป่วย เช่นมีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ให้รีบพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที เนื่องจากมีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนปอดบวมได้