SHARE

คัดลอกแล้ว

วันที่ 30 ม.ค. เวลา 11.00 น. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมด้วย พ.ต.อ. พันธนะ นุชนารถ รอง ผบก.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. นำกำลังเข้าตรวจค้นอาคาร 2 ชั้น ในซอย 3 ถนนสามวา แขวงเขตมีนบุรี กทม.

จากการตรวจสอบพบ น.ส.ฐิติมา อายุ 32 ปี ซึ่งป็นผู้โพสต์ข่าวไวรัสโคโรนาที่พัทยา โดยมีข้อความระบุว่า “พัทยามีคนป่วยโคโรน่า ตาย 1 คน ทำไมต้องปิดข่าวหรอ ประชาชนจะได้ระวังตัวกันห่วงเศรษฐกิจมากกว่าประชาชน “

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาหลังมีข่าวการแพร่ระบาดทางกระทรวงดิจิตอลไม่ได้นิ่งนอนใจ ติดตามและเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมด เพื่อติดตามผู้โพสต์ข่าวปลอมต่างๆ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้ประชาชนตื่นตกใจเป็นอย่างมาก ทางกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตั้งชุดเฉพาะกิจแยกออกมา กระจายตามเป้าหมายต่างๆ จำนวน 10 จุด ในเคสนี้ผู้ต้องหายอมรับว่ามีการโพสต์ตอนต้นๆ แต่ได้ลบแล้วหลังมีคนแชร์ออกไปจำนวนมาก

ทั้งนี้อีกจุดที่มีการเข้าตรวจค้นเป็นการแชร์ภาพที่มีคนยืนแล้วล้มลง ซึ่งคลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ เบื้องต้นได้ดำเนินการเชิญมาทำการสอบสวนที่กระทรวงดิจิตอล และ ปทอ. และอีกบางจุดพลาดเป้าไปบ้างเนื่องจากใช้ข้อมูลปลอมด้วย จนถึงขณะนี้เบื้องต้นสามารถควบคุมตัวผู้โพสต์ข่าวปลอมได้ 2 ราย อีก 10 รายกำลังติดตาม การโพสต์ข้อความข่าวปลอมดังกล่าวมีความผิดนำเข้าข้อมูลที่บิดเบือนเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งต้องดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

ต่อมา นายพุทธิพงษ์ แถลงข่าวว่า มีการขอศาลออกหมายค้นและปฏิบัติการตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาถึงช่วงเช้าวันนี้ จากการตรวจค้น 15 จุด พบผู้ที่น่าจะเข้าข่ายผิดปล่อยข่าวปลอม 6 จุด โดยในจำนวนนี้สอบสวนพบว่ามีความผิดจริงและจับกุมแล้ว 2 ราย ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (2) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน

ส่วนอีก 4 ราย จากการสอบสวนถึงเจตนา ไม่พบความตั้งใจในการสร้างความเสียหาย จึงตักเตือนและลงบันทึกประจำวันไว้ สำหรับในพื้นที่อีก 9 จุด หน่วยปฏิบัติการพิเศษของ สตช. กำลังติดตามหาตัวผู้กระทำผิดอยู่อย่างใกล้ชิด ซึ่งอุปสรรคส่วนหนึ่งคือ ส่วนใหญ่ผู้นำเข้าข้อมูลข่าวปลอมใช้พื้นที่อื่นลงทะเบียน หรือไม่ได้ใช้ชื่อ-นามสกุล และที่อยู่จริง ทำให้ต้องใช้เวลาติดตาม

ทั้งนี้ จากการมอนิเตอร์และรับแจ้งเรื่องเกี่ยวกับประเด็นไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ตามข้อมูลที่รวบรวมโดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 25-29 ม.ค. พบว่า มีจำนวนข้อความที่แจ้งเข้ามาทั้งสิ้น 7,587 ข้อความ แต่มีจำนวนที่ต้องตรวจสอบยืนยัน (Verify) 160 ข้อความ โดยพบว่ามีข่าวที่เกี่ยวข้องโดยตรง 26 เรื่อง แบ่งเป็น ข่าวปลอม 22 เรื่อง  และข่าวจริง 4 เรื่อง

โดยข่าวปลอม เช่น กรมควบคุมโรค หยุดใช้เครื่องตรวจวัดฯ ไวรัสโคโรน่าฯ, สเปรย์พ่นปาก ฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนา, คลิปสุดช็อค! ไวรัสโคโรนา ทำคนล้มทั้งยืน, เชื้อไวรัสโคโรนาฯ ติดต่อผ่านการมองตาได้, รัฐบาลจีนปิดบังข้อมูล แท้จริงมีผู้ติดเชื้อ 90,000 ราย, เชื้อไวรัสโคโรนาทำพิษ ชาวจีนล้มตึงกลางกลางสุวรรณภูมิ

“ขณะนี้เข้าใจว่าอารมณ์คนไทยมีความตื่นตระหนก ดังนั้น หากเจอข่าวแปลกๆ และไม่มั่นใจ อย่าเพิ่งแชร์ หรือส่งต่อ ขอให้มีการตรวจสอบกับสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422 หรือกระทรวงดิจิทัลฯ เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดเกี่ยวกับไวรัสโคโรนา ส่วนการป้องกัน ขอแนะนำว่า หลักการเหมือนกับโรคติดเชื้อทางเดินหายใจอื่นๆ คือ หลีกเลี่ยงการไปในที่มีคนแออัด ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงคลุกคลีกับผู้ป่วยที่มีไข้ ไอ จาม หากเลี่ยงไม่ได้ให้สวมหน้ากากอนามัย” รมว.ดีอีเอสกล่าว

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า