รู้หรือไม่ว่า ตอนนี้ Visa เปลี่ยนโลโก้ใหม่แล้ว นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกในรอบ 7 ปี
โดยภาพรวมแล้ว หน้าตาของโลโก้แตกต่างจากของเก่าเล็กน้อย แต่ได้แฝงความหมายที่ลึกซึ้งเอาไว้ แต่เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร TODAY Bizview สรุปให้ในบทความนี้
อันดับแรก เรามาทำความรู้จัก ‘โลโก้’ กันก่อน
โลโก้ไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์หรือชื่อของแบรนด์ แต่โลโก้ยังเปรียบเสมือนเรื่องราวต่างๆ ของแบรนด์หรือสินค้านั้นๆ ซึ่งโดยปกติแล้ว โลโก้จะเปลี่ยน เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจหรือต้องการที่จะขับเคลื่อนบางสิ่งในสังคม
สำหรับแบรนด์ Visa ที่ทำธุรกิจด้านการเงิน ความจำที่คนส่วนใหญ่รับรู้คือ เมื่อนึกถึง Visa จะนึกถึงบัตรเครดิตและเดบิต
แต่ทว่านับจากนี้เป็นต้นไป Visa ประกาศว่า ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ และให้คนเข้าใจภาพของแบรนด์ที่กว้างกว่าเดิม ต้องการเป็น ‘เครือข่าย’ ที่จะเชื่อมต่อลูกค้า ธุรกิจ และการทำธุรกรรมต่างๆ ในเศรษฐกิจของโลกให้มากขึ้น
พูดง่ายๆ คือ วิสัยทัศน์ของ Visa คือต้องการให้ภาพจำเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อผู้คน ธุรกิจ และเศรษฐกิจ เข้าด้วยกัน ไม่อยากเป็นเพียงแค่ภาพจำของบัตรที่ใช้รูดชำระค่าสินค้าแบบเดิมๆ อีกต่อไป
ดังนั้น ล่าสุด Visa จึงเปลี่ยนโลโก้ของแบรนด์ตัวเองในรอบ 7 ปี โดยได้ร่วมมือกับ Mucho ดีไซน์สตูดิโอที่ออกแบบโลโก้แบรนด์ดังๆ มาแล้วนับไม่ถ้วน
สรุปแล้วโลโก้ใหม่ มีอะไรเปลี่ยนบ้าง?
– โลโก้ใหม่จะแบ่งออกเป็น เครื่องหมายตราสินค้า (brand mark) และสัญลักษณ์ตราสินค้า (brand symbol) อย่างชัดเจน
– โดยเครื่องหมายตราสินค้าอันใหม่ ยังคงคำว่า VISA แบบพิมพ์ใหญ่ไว้เหมือนเดิม แต่มีการเปลี่ยนโทนสี จากสีเหลืองและน้ำเงิน เป็นสีน้ำเงินล้วนที่มีความสดใสมากขึ้น เพื่อที่จะสื่อถึงความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และการเข้าถึงการเงินที่ง่ายขึ้น
– ส่วนสัญลักษณ์อันใหม่ จะเป็นแถบสามสี น้ำเงิน ขาว เหลือง เพื่อที่จะสื่อถึงความเข้าถึงง่าย ความเท่าเทียม และความครอบคลุมของธุรกรรม
ในภาพรวม ดูเหมือนว่า การเปลี่ยนแปลงโลโก้ของ Visa ครั้งนี้จะไม่ได้แตกต่างจากเดิมมากนัก แต่ถ้าสังเกตสัญลักษณ์อันใหม่ของ Visa ดีๆ จะเห็นได้ชัดว่าคล้ายกับ ‘เครื่องหมายเท่ากับ’
เรื่องนี้ทาง Visa ให้เหตุผลไว้น่าสนใจว่า ทางแบรนด์ต้องการจะสื่อว่า Visa คือ ‘เศรษฐกิจที่ทุกคนเข้าถึงได้และยกระดับชีวิตคุณไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม (economies that include everyone everywhere, uplift everyone everywhere)’
ส่วนสาเหตุเบื้องหลังที่แบรนด์มีการเปลี่ยนโลโก้และเพิ่มความหมายใหม่เข้าไป เพราะแบรนด์ต้องการจะให้คนเห็นว่า แบรนด์เองยังมีอะไรมากกว่าแค่บริษัทธุรกรรมการเงินและบัตรเครดิต แต่มีความต้องการที่จะให้ลูกค้าและตัวธุรกิจต่างๆ เข้าถึงกันง่ายขึ้น และมีความสอดคล้องในเศษฐกิจโลกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งแบรนด์เอง อยากที่จะปรับเปลี่ยน และสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงขึ้นเพื่อที่จะเชื่อมต่อธุรกรรมต่าง ๆ รอบโลก
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ แบรนด์จึงเปลี่ยนโทนสี-กราฟฟิค-ภาพวาด ให้มีความสบายตา เรียบง่าย แม้กระทั่งมู้ดแอนด์โทน เพื่อที่จะสื่อถึงข้อความที่แบรนด์อยากจะส่งต่อให้ลูกค้า
ส่วนในมุมกระแสทางการตลาด การเปลี่ยนโลโก้ของ Visa ในครั้งนี้ กระแสตอบรับค่อนข้างดี หลายๆ คนรู้สึกตื่นเต้นกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ อีกทั้งยังรู้สึกว่า เมื่อเครื่องหมายกับสัญลักษณ์ของแบรนด์ถูกนำไปใส่ในเอกสารสำคัญ จะดูสะอาดและเรียบร้อยมากขึ้น แต่ก็ยังมีเสียงส่วนน้อยที่รู้สึกว่า มู้ดแอนด์โทนใหม่อาจจะยังตื่นเต้นได้มากกว่านี้ หรือบางคนก็วิจารณ์ว่า ถ้าแบรนด์ไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็ไม่ได้จำเป็นต้องเปลี่ยนโลโก้ด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม ในมุมของ Visa จุดประสงค์ของการเปลี่ยนโลโก้ในครั้งนี้ ไม่ได้เพียงต้องการจะสื่อถึงวิสัยทัศน์ใหม่ในทางธุรกิจ แต่ยังหมายถึงการให้คความสำคัญกับการเข้าถึงลูกค้าและธุรกิจต่างๆ ทั่วโลก โดยคำนึงถึงความเท่าเทียม (สื่อสารผ่านสัญลักษณ์เครื่องหมายเท่ากับ) ซึ่งก็เป็นหนึ่งประเด็นที่สังคมให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก แบรนด์ Visa ก็อยากจะขับเคลื่อนกับประเด็นนี้เช่นกัน จึงไม่แปลกที่จะมีการเปลี่ยนแปลงโลโก้ในครั้งนี้
หลังจากนี้ต้องจับตาว่า สุดท้ายแล้ว Visa จะเปลี่ยนแค่ตัวโลโก้ โชว์วิสัยทัศน์ให้โลกเห็น หรือว่าจะเริ่มขับเคลื่อนเพื่อเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างในสังคมด้วยหรือไม่
Sources:
https://www.creativebloq.com/news/visa-logo-redesign
https://www.transformmagazine.net/articles/2022/visa-unveils-new-brand-identity/