‘คิง เพาเวอร์’ ส่งบริษัทลูกลุยน้ำวิตามิน ‘วิตมอรส์’ หลังท่องเที่ยวยังไม่ฟื้น ทำขาดทุน 4 พันล้าน

ท่องเที่ยวยังไม่ฟื้น ‘คิง เพาเวอร์’ หาทางรอด ส่งบริษัทในเครือเปิดตัว ‘วิตมอรส์’ (VITMORES+) น้ำผสมวิตามินตัวใหม่ล่าสุด หวังเจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมี่ยม แมส (Premium Mass) ชูความต่างด้วยวิตามิน แร่ธาตุ นำเข้าจากต่างประเทศ พร้อมบรรจุภัณฑ์ขวดแคปซูล ดีไซน์โดดเด่นสีสันสดใส หลังผลประกอบการปี 63 ขาดทุนราว 4,473 ล้านบาท

นายรวิ อิทธิระวิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มัลติพลาย บาย เอท จำกัด กลุ่มบริษัทในเครือ บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า พฤติกรรมผู้บริโภคที่มักจะมีความต้องการสินค้าในรูปแบบใหม่ๆ ที่ตอบสนองได้มากกว่า ประกอบกับเทรนด์ของเครื่องดื่มที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ คิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ในราคาจับต้องได้ออกสู่ตลาด เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคภายใต้แบรนด์ VITMORES+ (วิตมอรส์) ชูความแตกต่างด้านคุณสมบัติที่อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุจากต่างประเทศ และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ขวดแคปซูลที่สวย โดดเด่น

ภายใต้แบรนด์คอนเซ็ปต์ น้ำวิตามินในขวดแคปซูล มากกว่าวิตามิน ดื่มได้ประโยชน์ทุกวัน เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในรูปแบบ Trendy Well Being Lifestyle อย่างแท้จริง

นายรวิ อิทธิระวิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มัลติพลาย บาย เอท จำกัด

“VITMORES+ น้ำผสมวิตามินในขวดแคปซูล มีเป้าหมายเจาะกลุ่มผู้บริโภคพรีเมี่ยม แมส ให้เข้าถึงผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในราคาจับต้องได้ ด้วยวัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ มีส่วนผสมของวิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ที่ร่างกายต้องการในปริมาณที่พอเหมาะต่อวัน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ทั้งยังปราศจากแคลอรี และน้ำตาล 0% เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจดูแลรักษาสุขภาพ ต้องการควบคุมปริมาณน้ำตาล ใช้ความหวานจากหญ้าหวาน” นายรวิ กล่าว

จุดเด่นการทำตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ VITMORES+

– มุ่งสร้างการจดจำและเข้าถึงผู้บริโภคให้มากขึ้น ด้วยการฉีกกฎเกณฑ์บรรจุภัณฑ์ให้เป็นที่กล่าวขานถึงในด้านบรรจุภัณฑ์ “ขวดสวย” เด่น สะดุดตา แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ด้วยการออกแบบขวดทรงแคปซูล เพื่อตอกย้ำจุดยืนของการใส่ใจผู้บริโภคด้านสุขภาพ

– และสื่อสารถึงคุณค่าภายในขวดที่ให้คุณค่ามากกว่าวิตามินอย่างชัดเจน ทั้งยังตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความโดดเด่นอย่างมีสไตล์

– โปรโมทผลิตภัณฑ์ด้วยการเปิดตัวพรีเซนเตอร์สะท้อนบุคลิกแบรนด์ชัดผ่าน ‘อิ๊งค์’ วรันธร เปานิล นักร้องสาวรุ่นใหม่ ที่เป็นตัวแทนของไลฟ์สไตล์ ความสดใส ร่าเริง มีผิวสุขภาพดี ที่จะช่วยสื่อสารและผลักดันตัวตนของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพออกมา ให้สินค้าเป็นที่รู้จักและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

สำหรับ VITMORES+ น้ำผสมวิตามินในขวดแคปซูล มีให้เลือกถึง 2 รสชาติ

-สูตรแรกเน้นผิวสดใสกับ VITA C – PLUS VITAMIN C 200% ขวดสีเหลือง

-สูตรสองเน้นผิวอ่อนเยาว์ กับ REVITALIZED VITAMIN ขวดสีชมพู

ล่าสุดวางจำหน่ายให้คนรักสุขภาพเลือกบริโภคทั้งสองสูตรแล้ววันนี้ที่ร้านสะดวกซื้อทั่วไป

คิง เพาเวอร์ อินเตอร์ฯ หาทางรอดหลังโควิดทำขาดทุน

ด้าน บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จดทะเบียนเมื่อปี 2538 ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลอดอากรในเมือง จำหน่ายสินค้าปลอดภาษีและปลอดอากร ณ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ คิง เพาเวอร์ พัทยา คิง เพาเวอร์ ศรีวารี และธุรกิจป้ายไฟโฆษณา ภายในอาคารผู้โดยสารในประเทศและระหว่างประเทศ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ และ ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา (ระยอง-พัทยา) พร้อมทั้งธุรกิจบริหารโรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ ร้านอาหารรามายณะ และร้านอาหารลามูน

ด้วยการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ส่วนใหญ่พึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้กิจการหลายแห่งได้รับผลกระทบปิดกิจการชั่วคราว รายได้จึงลดลงอย่างมาก

• ปี 2563 มีรายได้รวม 21,955 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ -4,473 ล้านบาท
• ปี 2562 มีรายได้รวม 61,193 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,106 ล้านบาท
• ปี 2561 มีรายได้รวม 60,480 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,105 ล้านบาท

ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ภาพรวมตลาดเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ในปี 2564 นี้ ไม่สามารถกลับไปเติบโตได้ในระดับเดียวกับปี 2561-2562 โดยมูลค่าตลาดน่าจะอยู่ที่ 1.97-1.99 แสนล้านบาท ปรับตัวดีขึ้น 0.5-1.5% จากปี 2563

การแข่งขันในตลาดเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ในปี 2564 จะมีความเข้มข้นเพิ่มขึ้น และอาจได้เห็นกลยุทธ์ธุรกิจในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อเติมช่องว่างในตลาดเครื่องดื่มแบบดั้งเดิมหรือตอบโจทย์ตลาดเฉพาะกลุ่ม การมุ่งเน้นเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่แตกต่างจากเดิม ให้คนรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงได้มากขึ้น

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังต้องเผชิญปัจจัยท้าทาย ที่อาจกระทบต่อการปรับตัวของธุรกิจ นอกเหนือจากภาวะกำลังซื้อที่เปราะบาง ได้แก่ การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มตามปริมาณน้ำตาลครั้งที่ 3 และแนวโน้มการใช้บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น