ส่องมาตรการ “โฟล์คสวาเกน” หลังเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ใหญ่ที่สุดในโลกอีกครั้ง

วันที่ 28 เม.ย. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า โฟล์คสวาเกนกลับมาเปิดโรงงานรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่เมืองโวล์ฟสบวร์กในเยอรมนี อีกครั้งเมื่อวานนี้ (27 เม.ย.) หลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 ทำให้โรงงานต้องปิดทำการนานที่สุดในประวัติศาสตร์

แต่ในการกลับมาดำเนินงานอีกครั้ง ทางโรงงานต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานหลายด้านเพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของพนักงานหลายแสนคน ตัวแทนสหภาพแรงงานเปิดเผยว่า ไม่เคยต้องพัฒนาการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้มาก่อน

โรงงานขนาดมหึมาของโฟล์คสวาเกน สร้างมาตั้งแต่ปี 1938 ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของบริษัท และผลิตรถยนต์มากกว่า 45 ล้านคัน นับตั้งแต่ปี 1945

โรงงานต้องยุติการผลิตชั่วคราวตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 มี.ค. เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทั่วยุโรปต้องยุติการผลิต หลังมีมาตรการปิดประเทศ การเปิดโรงงานผลิตครั้งนี้จึงเป็นสัญลักษณ์ของความพยายามในการกระตุ้นเศรษฐกิจของยุโรปอีกครั้ง โดยมีแรงงานกว่า 14 ล้านคน ที่ทำงานในอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ในยุโรป

โรงงานจะเริ่มการผลิตโดยใช้เจ้าหน้าที่ 1 กะ จำนวน 8,000 คน จากปกติที่ใช้ 20,000 คน ในเบื้องต้น พนักงานบางคนจะถูกลดชั่วโมงการทำงาน เนื่องจากการเปลี่ยนกะใหม่ทำให้พนักงานที่มาเข้างาน จะไม่ได้พบกับพนักงานที่กำลังเลิกงาน

นอกจากนั้น พนักงานจะต้องเช็คอุณหภูมิร่างกายด้วยตัวเอง และเปลี่ยนเครื่องแบบทำงานที่บ้านในช่วงเช้า แทนที่จะเป็นที่โรงงาน พวกเขาจะได้รับการร้องขอให้ใช้ข้อศอกในการเปิดประตู และเดินเป็นแถวเดียวเมื่อเข้าในโรงงาน ตามเครื่องหมายที่ติดไว้บนพื้น เพื่อรักษาระยะห่างระหว่างกัน

มาตรการเว้นระยะทางสังคมจะถูกนำมาใช้ในระหว่างการประชุมทีม และการรับประทานอาหารกลางวัน โดยจะมีการลดที่นั่งในพื้นที่สาธารณะ ส่วนห้องประชุมจะถูกเปลี่ยนเป็นออฟฟิศ โรงอาหารจะยังคงปิด และคนงานจะต้องนำอาหารมาเอง ก๊อกน้ำถูกถอดออก เพื่อลดแนวโน้มการติดเชื้อ และเครื่องปรับอากาศถูกตั้งค่าให้หมุนเวียนอากาศบริสุทธิ์ให้ได้มากที่สุด

เครื่องมือต่างๆ จะผ่านการฆ่าเชื้อหลังการทำงานแต่ละกะ และคนงานไม่ต้องส่งต่อเครื่องมือการทำงานให้อีกคนหนึ่งด้วยมืออีกต่อไป แต่ให้นำอุปกรณ์ไปเก็บไว้ในกล่อง เพื่อให้อีกคนมาหยิบเครื่องมือโดยไม่สัมผัสมือกัน นอกจากนั้น ยังมีการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับการล้างมืออักหลายร้อยจุดทั่วโรงงาน

ส่วนรถยนต์ที่อยู่ระหว่างการประกอบ จะมีช่องว่างห่างกันมากขึ้น และคนงานจะประกอบรถยนต์คันเดียวกันโดยแยกจากกันหากเป็นไปได้ คนงานต้องสวมหน้ากาก เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถรักษาระยะห่างจากกันได้ 1.5 เมตร

นอกจากนั้น ความท้าทายครั้งสำคัญของโฟล์คสวาเกน ยังรวมถึงการสร้างความมั่นใจว่า บรรดาซัพพลายเออร์ที่เข้ามายังโรงงานจะไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ ด้วยการแจกจ่ายแผนงานด้านความปลอดภัยถึงกว่า 100 ข้อ ให้แก่ซัพพลายเออร์ของโรงงานที่มีมากกว่า 40,000 ราย