‘ณัฐวุมิ ก้าวไกล’ ยืนยันกลางสภาฯ ย้ำสถานะ ‘พิธา’ ยังครบถ้วนสมบูรณ์

‘ณัฐวุฒิ ก้าวไกล’ ยืนยันกลางสภาฯ ย้ำสถานะ ‘พิธา’ ครบถ้วนสมบูรณ์ทุกประการ แย้มเสนอชื่อโหวตนายกฯ อีกรอบได้ มีช่องทางตามข้อบังคับข้อ 41 ให้ ‘ประธานรัฐสภา’ พิจารณาเมื่อมีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลง

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในการประชุม ได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบถึงคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ที่สั่งให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. 66 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาดในคดีที่ถูกตรวจสอบว่า ขาดคุณสมบัติ กรณีถือครองหุ้นสื่อหรือไม่ ทำให้ ขณะนี้มี สส. ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้จำนวน 499 คน

จากนั้น นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกหารือต่อประชุมว่า นายพิธาประกาศต่อที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 66 ว่า รับทราบ แต่ไม่ยอมรับ ตนยืนยันว่า คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่อ้างรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น ถือว่าไม่มีผลกระทบต่อการถูกเสนอชื่อฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคก้าวไกล ดังนั้นนายพิธา จึงมีสถานะครบถ้วนสมบูรณ์ทุกประการ มีโอกาสมีสิทธิถูกเสนอชื่อให้ต่อสู้ฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและลงมติเห็นชอบให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีได้

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า จากกรณีของศาลรัฐธรรมนูญต่อกรณีของนายพิธานั้น ยังไม่มีคำวินิจฉัยชี้ขาดว่า นายพิธานั้นกระทำผิด หรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นตามหลักการของกฎหมาย ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ขณะเดียวศาลจะวินิจฉัยอย่างไร ไม่มีใครทราบ ซึ่งการเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น รัฐธรรมนูญกำหนดให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 159 และมาตรา 272 ดังนั้นนายพิธาจึงมีสถานะและความสมบูรณ์ที่จะได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อรัฐสภา

“แม้จะมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สถานะของคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกลและบุคคลที่พรรคก้าวไกลเสนอให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนั้น ยังมีสถานะครบถ้วนสมบูรณ์ทุกประการ ฉะนั้นก็ยังมีโอกาสที่จะมีสิทธิที่เพื่อนสมาชิกจะเข้าชื่อเสนอคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้ต่อสู้ต่อในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และเราก็ยังสามารถที่จะลงมติให้ความเห็นชอบต่อคุณพิธาได้ อย่างไรก็ตามกรณีการให้ความเห็นชอบและการเสนอชื่อต่างๆ นั้น ก็คงอาจจะเร็วไปที่จะบอกว่า จะมีการยืนยันเหล่านั้นหรือไม่ เพราะเมื่อวานในท้ายที่สุดสิ่งที่คุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ไม่ได้พูดต่อที่ท่านประธานรัฐสภาปิดไมค์ก็คือว่า ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 41 วรรคท้าย บอกว่า ประธานสภาอาจพิจารณาต่อได้ หากมีสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปครับ รับทราบครับคำสั่ง รับทราบตั้งแต่เมื่อวาน รับทราบด้วยความเต็มใจ สมัครใจ จริงใจ แต่ยังยืนยันความครบถ้วนสมบูรณ์ต่อสถานะของคุณพิธา ทั้งในสถานะ สส. และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของประเทศไทย มิใช่ของแต่เพียงคนที่เลือกพรรคก้าวไกล”