มติ 8 พรรคร่วมฯ เสนอชื่อ ‘พิธา’ ชิงนายกฯ รอบ 2 วันที่ 19 ก.ค.นี้ คนเดียว

มติ 8 พรรคร่วมฯ ยืนยันเสนอ ‘พิธา’ ชิงนายกฯ รอบ 2 วันที่ 19 ก.ค.นี้ คนเดียว มั่นใจไม่ขัดข้อบังคับ 41  เชื่อได้เสียงเพิ่มขึ้น แต่ถ้าไม่ถึง 345 ‘ก้าวไกล’ จะถอยให้ ‘เพื่อไทย’ เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ส่วนปมยื่นแก้ ม.272 ยกเลิกอำนาจ ส.ว. ไม่ผูกพันพรรคอื่น    

ที่อาคารไทยซัมมิท วันที่ 17 ก.ค. 66 เวลา 18.30 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุม 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล ว่ามีข้อสรุป 3 ข้อคือ

1. วันที่ 19 ก.ค. ทั้ง 8 พรรค มีมติเสนอ ‘พิธา’ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 30

2. การเสนอมาตรา 272 ยกเลิกอำนาจ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรี เป็นการเสนอของพรรคก้าวไกลเอง ไม่เกี่ยว 7 พรรคที่เหลือ

3. ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 ที่มีทาง ส.ว. เห็นต่าง ทาง 8 พรรคร่วมฯ ได้มีความเห็นทางกฎหมายว่า ไม่ถือว่าเป็นญัตติ เป็นการเสนอผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าเสียงในการโหวตรอบ 2 ยังไม่เพียงพออีกจะดำเนินการอย่างไร นายพิธา บอกว่า สมรภูมิแรก ถ้าคะแนนไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญก็พร้อมจะถอยให้ประเทศชาติ ถอยให้พรรคอันดับ 2 ที่อยู่ใน MOU ก็คือพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามย้ำว่า ถ้าวันที่ 19 ก.ค. มีการพิจารณาว่าเข้าเหตุข้อบังคับที่ 41 จะดำเนินการอย่างไร นายพิธา ตอบว่า เรามีข้อสรุปเรื่องการตีความข้อกฎหมาย ซึ่งพรุ่งนี้ (18 ก.ค. 66) จะมีการประชุมวิป 3 ฝ่าย ก็น่าจะได้เห็น ซึ่งต้องรอฟังทางวิป ว่ามีเหตุผลอะไรถึงตีความเรื่องอย่างนี้เป็นญัตติได้ มันคนละเรื่องกัน

เมื่อถามว่า ยังยืนยันความสัมพันธ์ของ 8 พรรคร่วมฯ ใช่หรือไม่ นายพิธา ตอบว่า “ถึงได้มีมติออกมาในวันนี้ได้ครับ” และว่า “เป็นไปได้ด้วยดี มีความพยายามที่จะตั้งรัฐบาลของประชาชนให้ได้ แล้วก็มีมติส่งผมอีกครั้ง และเราจะพยายามใช้เวลาอย่างเต็มที่”

เมื่อถามถึงการขอเสียงจากพรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคประชาธิปัตย์ นายพิธา กล่าวว่า ยังไม่ใช่มติจาก 8 พรรคร่วมฯ

เมื่อถามอีกว่า ถ้าไม่สามารถเสนอชื่อรอบ 2 เตรียมชื่อสำรองหรือไม่ นายพิธา ตอบว่า ยังไม่มี ยังเป็นชื่อผมคนเดียว

เมื่อถามถึงการรวมเสียง ส.ว. มีความคืบหน้าอย่างไร นายพิธา ตอบว่า หลังจากวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา ยังมีการพูดคุยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีหลายท่านที่ไม่ได้ลงคะแนนเสียงในวันนั้น ก็มีโอกาสพูดคุย บางท่านติดต่างประเทศ มีความเป็นไปได้ที่จะมาลงให้

เมื่อถามถึงกระแสข่าวการต่อสายคุยกับพรรคการเมืองขั้วรัฐบาลเดิม นายพิธา ตอบว่า เป็นเรื่องปกติ ที่ตนจะหารือประเด็นทางการเมืองกับเพื่อนๆ ส.ส. ส.ว. เวลาเดินผ่านสภาฯ แต่ไม่ได้มีการเชิญร่วมรัฐบาล ซึ่งการหารือแลกเปลี่ยนประเด็นทางการเมืองตนคุยเกือบทุกพรรค ยกเว้นพรรคลุง ไม่ใช่ขอเสียง

เมื่อถามลงรายละเอียดตัวเลขที่ระบุว่า “นัยยะสำคัญ” คือเท่าไหร่ นายพิธา บอกว่า ถ้าขึ้นจาก 324 เป็น 344 หรือ 345 ไม่ได้ตั้งใจที่จะกั๊กว่า “นัยยะสำคัญ” แล้วมีตัวเลขในใจ ก็คงจะมีตัวเลขที่ไม่ฝืนสายตาประชาชน และว่า ส่วน 10% ที่จะได้มา ก็ต้องรอดูด้วยกันและยังทำงานตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ได้ทิ้งไป

เมื่อถามถึงการประเมินเสนอชื่อแข่งจากรัฐบาลเสียงข้างน้อย นายพิธา กล่าวว่า เท่าที่ฟังจากการให้สัมภาษณ์ของ 10 พรรค ทุกคนก็พูดว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นคุณอนุทิน คุณธนกร และอีก 2-3 ท่าน ก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้

ส่วนกรณีกระแสข่าว ส.ส. ถูกเรียกไปคุยเพื่อดึงไปเพิ่มเสียงของอีกขั้ว นายพิธา กล่าวว่า ทางของพรรคก้าวไกลได้ติดตามและเช็กตลอด และมั่นใจว่าทุกคนได้รับบทเรียนจากการเป็น “งูเห่า” แล้วได้คะแนนมาแค่พันกว่าคะแนนเท่านั้น มั่นใจว่าทางก้าวไกลไม่มี ส่วนของเพื่อไทยก็คิดว่าหัวหน้าพรรคคิดเช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่า มีการพูดถึงให้พรรคก้าวไกล ถอยเรื่อง ม.112 อาจทำให้พรรคอื่นๆ มายกมือให้ นายพิธา ตอบว่า ตนคิดว่า ม.112 เป็นข้ออ้างที่อยู่ข้างหน้า แต่ว่าข้างหลังก็คงมีหลายเรื่อง ตามที่สื่อวิเคราะห์กันหลายรายการ ที่ว่าอาจมีหลายเรื่องไปกระทบเกี่ยวกับสัมปทาน ผลประโยชน์ การปฏิรูปกองทัพ กอ.รมน. ที่ทางพรรคก้าวไกลต้องการที่จะให้ทหารออกจากการเมืองให้ได้ เลยคิดว่า เรื่อง ม.112 ก็เป็นเรื่องที่ sensitive เป็นเรื่องสำคัญ แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง ก็คิดว่าพอหายไปเรื่องอื่นก็จะมาอีก

“และที่สำคัญที่สุดก็คือว่า ผมต้องการที่จะรักษาคำพูด ก็คือก่อนหาเสียงพูดไปยังไง หลังหาเสียงก็ไม่ใช่ว่า ต้องการจะเข้าสู่อำนาจด้วยทุกวิถีทาง แล้วก็ถ้าเป็นเรื่องที่มีน้ำหนักจริงก็อาจจะคิด แต่ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องที่มีน้ำหนักเท่ากับเรื่องต่างๆ ที่อาจจะไปกระทบกับผลประโยชน์ของแต่ละคน” นายพิธา

ส่วนกรณีศาลรัฐธรรมนูญ นัดพิจารณาคำร้องของ กกต. กรณีสมาชิกภาพ ส.ส. จากการถือหุ้น ITV ในวันที่ 19 ก.ค. วันเดียวกัน นายพิธา ตอบกว่า ประชุม 9.30 น. วาระการประชุมที่ 4 แต่ผลจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ ไม่ได้ทำให้แคนดิเดตนายกฯ ของตนหายไป ถ้าเทียบกับของคุณธนาธร (จึงรุ่งเรืองกิจ) เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลแต่อย่างใด

เมื่อถามถึงการที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เสนอให้พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน นายพิธา ตอบสั้นๆ ว่า “ยึดตามที่แถลงก่อนครับ”