เลขาธิการสภาฯ เผย ส.ส.ที่ถูกคำพิพากษาถึงที่สุดจะไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ขณะที่ รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมายให้ความเห็นกรณี พ.ต.ท.ไวพจน์ ถูกตัดสินโทษจำคุกโดยไม่รอลงอาญาในชั้นศาลฎีกา ต้องหลุดจากส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ เตรียมจัดเลือกตั้งใหม่อีกเขต

วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี /แฟ้มภาพ
วันที่ 11 ก.ย. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกรณีศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 4 ปี แกนนำนปช. ล้มประชุมอาเซียน ปี 2552 สมัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยหนึ่งในจำเลยที่ถูฏตัดสินลงโทษ คือ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบคำพิพากษา จึงไม่สามารถตอบได้
ส่วนจะใช้เอกสิทธิ์การเป็น ส.ส.คุ้มครองได้หรือไม่ ตนมองว่า การใช้เอกสิทธิ์ ส.ส. จะใช้ในกรณีที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล (ต่อสู้คดี) ดังนั้นเมื่อศาลตัดสินแล้วจึงไม่เกี่ยวข้องกัน ผลจึงเป็นไปตามคำพิพากษา เมื่อศาลฎีกาตัดสินจำคุก ไม่รอลงอาญา จึงต้องไปตามนั้น โดยเจ้าหน้าที่สามารถออกหมายจับได้ทันที กรณีนี้ พ.ต.ท.ไวพจน์เป็น ส.ส.แบบเขต ไม่ใช่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จึงต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่และต้องคำนวณคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ใหม่ด้วย
ขณะที่ นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (13) ระบุถึงการสิ้นสมาชิกภาพของส.ส. คือต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก แม้จะมีการรอการลงโทษ เว้นแต่เป็นการรอการลงโทษในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท ความผิดลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท ดังนั้นเมื่อศาลมีคำพิพากษาของศาลฎีกาต่อที่ประชุมให้ทราบ แต่จนถึงขณะนี้ศาลยังไม่ส่งคำพิพากษาจากศาลมายังสภาฯ ทำให้สภาฯ ไม่สามารถนำข่าวที่มีจากสื่อมวลชนมาอ่านในที่ประชุมสภาฯได้
อย่างไรก็ตามการจับกุม หรือการดำเนินคดีที่ศาลพิพากษาถึงที่สุดในสมัยประชุมนั้น สามารถทำได้ เพราะคดีถึงที่สุดแล้ว โดย ส.ส.ที่ถูกคำพิพากษาถึงที่สุดจะไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง
(พ.ต.ท.ไวพจน์ ทำหน้าที่ในที่ประชุมสภาฯ วันที่ 11 ก.ย. 62)
