ทำไมห้างค้าปลีกระดับโลกอย่าง Walmart ถึงมีแผนเข้าสู่ Metaverse

นาทีนี้ใครไม่ประกาศว่าจะเข้าสู่เทรนด์ Metaverse ก็ดูเหมือนจะตกขบวนเทคโนโลยี เพราะล่าสุด ห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Walmart ก็เตรียมเข้าสู่จักรวาล Metaverse ด้วย

โดยไม่ใช่เพียงแต่วางแผนสร้างคริปโตเคอร์เรนซี่รวมถึง NFT ของตัวเองเท่านั้น แต่แบรนด์ห้างค้าปลีกรายนี้ยังยื่นเอกสารจดเครื่องหมายการค้าหลายรายการกับสำนักสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าสหรัฐอเมริกาในเดือนที่ผ่านมาอีกด้วย

โดยระบุจุดประสงค์ของการจดเครื่องหมายการค้าดังกล่าวว่า เพื่อขายสินค้าเสมือน (virtual goods) อย่างเครื่องใช้ไฟฟ้า, ของตกแต่งบ้าน, ของเล่น, สินค้ากีฬาและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว

ซึ่งในเอกสารอีกไฟล์หนึ่ง Walmart ระบุว่าจะเสนอให้ลูกค้าใช้เงินเสมือนรวมถึง NFT เพื่อซื้อสินค้าในโลก Metaverse ของตัวเอง

ในแถลงการณ์ Walmart ระบุว่า การจดเครื่องหมายการค้าดังกล่าวนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการเดินหน้าสำรวจว่าเทคโนโลยีนี้จะออกแบบประสบการณ์การช้อปปิ้งในอนาคตอย่างไร

Walmart ยังระบุอีกว่า บริษัททดสอบไอเดียใหม่ๆ ตลอดเวลา บางไอเดียก็กลายเมาเป็นโปรดักต์หรือบริการให้กับลูกค้า แต่บางไอเดียก็ได้เรียนรู้บางอย่างจากมันเท่านั้นเอง

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ Facebook ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta เพื่อจะมุ่งโฟกัสให้กับ Metaverse แบรนด์ใหญ่ๆ ระดับโลกต่างก็กระโดดเข้าเทรนด์นี้กันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น

-Nike จดเครื่องหมายการค้า เตรียมขายรองเท้าและเสื้อผ้าเสมือน, ประกาศร่วมทีมกับ Roblox สร้างโลกเสมือนที่มีชื่อว่า Nikeland และยังไปซื้อบริษัททำรองเท้าผ้าใบเสมือนที่ชื่อ RTFKT ด้วย

-Gap เริ่มขายเสื้อที่มีโลโก้แบรนด์ตัวเองในรูปแบบ NFT

– Under Armour’s และ Adidas เปิดขายสินค้า NFT ของตัวเองในเดือนที่ผ่านมา

ขณะที่แบรนด์เสื้อผ้าอื่นๆ เช่น Urban Outfitters, Ralph Lauren และ Abercrombie & Fitch ก็ไปจดเครื่องหมายการค้าในสหรัฐฯ เพื่อที่จะทำร้านค้าเสมือนด้วย

ส่วนในฝั่งประเทศไทยเอง กลุ่มห้างสรรพสินค้าก็เริ่มเกาะเทรนด์นี้กันบ้างแล้ว อย่างสยามพิวรรธน์ เจ้าของศูนย์การค้าอย่างสยามพารากอน, ไอคอนสยาม ฯลฯ ก็เปิดตัวเหรียญโทเคนของตัวเองชื่อ Viz Coin ที่ลูกค้าสามารถนำมาใช้ซื้อสินค้าในห้างในเครือ และเตรียมต่อยอดนำไปซื้อ NFT ได้ในอนาคต

ฟาก The Mall Group ก็ประกาศความร่วมมือกับ Bitkub ให้ทดลองนำคริปโต 7 เหรียญมาแลกสินค้าของสินค้าในโซน Department Store ของห้างในเครือได้

ขณะที่ฝั่ง ‘เซ็นทรัล’ ก็กระโดดเข้าสู่โลกคริปโตฯ ด้วยการออกเหรียญ C-Coin นำร่องให้พนักงานไว้ซื้อของ ที่อาจขยายไปสู่การให้ลูกค้าใช้ในอนาคต

แล้วถามว่าทำไม ห้างค้าปลีกรวมถึงแบรนด์ต่างๆ ต้องก้าวสู่โลก Metaverse ด้วย?

คำตอบแรกก็คือ Metaverse อาจจะเป็นน่านน้ำใหม่ในการหารายได้ให้กับแบรนด์ต่างๆ เรียกได้ว่ามีหนทางในการขายสินค้าเพิ่มเติม สร้างโอกาสในการหารายได้ใหม่ๆ

นอกจากนี้ การเปิดตัวสินค้าแบบ NFT นั้นทำให้แบรนด์ต่างๆ สามารถออกเหรียญหรือโทเคนของตัวเอง ที่นอกจากจะให้ลูกค้านำมาใช้ซื้อสินค้า NFT แล้ว ก็ยังสามารถนำคริปโตฯ เหล่านั้นมาซื้อสินค้าจริงๆ ที่จังต้องได้ (physical products) รวมถึงบริการในห้างได้ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในเรื่องการทำธุรกรรมออนไลน์ลงไป

ที่น่าสนใจคือ การออกโปรดักต์หรือขายสินค้าในรูปแบบ NFT ยังช่วยให้แบรนด์หรูอบ่าง Gucci หรือ Louis Vuitton ขายสินค้าที่ราคาแพงขึ้นได้นั่นเอง

ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ “ลูกค้าไปอยู่ที่ไหน แบรนด์ก็ต้องตามไปอยู่ด้วย”

เพราะยิ่งนับวัน ผู้บริโภคก็ยิ่งสนใจและอยากจะเข้าไปอยู่ในโลก Metaverse มากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะไปซื้อของจากร้านค้าเสมือน ซื้อสินค้าเสมือน นั่นเลยทำให้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ ต้องการที่จะสร้างระบบนิเวศนี้ขึ้นมารองรับดีมานด์ของผู้บริโภค

และยิ่งการประสบความสำเร็จจากอีคอมเมิร์ซ อย่าง Walmart เองก็มีรายได้จากช้อปออนไลน์ในไตรมาส 3/64 ถึง 1.11 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 3.65 แสนล้านบาท ที่น่าจะทำให้แบรนด์ใช้ประโยชน์จากความสำเร็จนี้ได้

การไปลองสิ่งใหม่ที่แปลกออกไปจากเดิมนิดหน่อยอย่าง Metaverse ก็คงไม่ทำให้เกิดความเสียหาย และท้ายที่สุดก็น่าจะ ‘วิน-วิน’ กันทั้งแบรนด์และผู้บริโภคนั่นเอง

ที่มา:

https://www.cnbc.com/2022/01/16/walmart-is-quietly-preparing-to-enter-the-metaverse.html

https://www.businessinsider.com/walmart-makes-plans-to-enter-the-metaverse-2022-1