รัฐวอชิงตันดึง Starbucks ช่วยกระจายวัคซีนโควิด-19

ผู้ว่าการรัฐวอชิงตันแก้ปัญหาฉีดวัคซีนล่าช้า ด้วยการนำบริษัทเอกชนอย่างสตาร์บัคส์มาช่วยวางระบบ

วันที่ 18 ม.ค. 2564 สถานีข่าว NBC News รายงานว่า รัฐวอชิงตันของสหรัฐฯ ตัดสินใจดึง สตาร์บัคส์ (Startbucks) เครือร้านกาแฟรายใหญ่ เข้ามาช่วยเหลือด้านการวางระบบขนส่งและกระจายวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 หลังพบว่ากระบวนการที่ผ่านมามีความล่าช้าเป็นอย่างมาก จึงได้มีการนำผู้ที่เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และการกระจายสินค้าจำนวนมากมาปรับปรุงกระบวนการดังกล่าวให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

การร่วมมือกันครั้งนี้ ไม่ใช่การใช้ร้านสตาร์บัคส์เป็นสถานที่ฉีดวัคซีน โดยสตาร์บัคส์ได้มอบหมายให้พนักงาน 11 คนที่เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน มาทำงานเต็มเวลาในโครงการกระจายวัคซีนภายในรัฐวอชิงตัน ซึ่งเป็นรัฐที่สำนักงานใหญ่ของสตาร์บัคส์ในเมืองซีแอตเติลตั้งอยู่

เควิน จอห์นสัน ซีอีโอของสตาร์บัคส์เปิดเผยว่า หากคำนวณจากความเร็วของการกระจายวัคซีนในปัจจุบัน อาจต้องใช้เวลา 6-8 ปีกว่าที่คนทั้งประเทศจะได้ฉีดวัคซีน เราไม่สามารถยอมรับได้กับความเร็วระดับนี้ แม้ว่าสตาร์บัคส์จะไม่ใช่บริษัทที่ให้บริการด้านสุขภาพ แต่เรามีร้านกาแฟอยู่ 33,000 สาขา ให้บริการลูกค้า 100 ล้านคนต่อสัปดาห์

ที่ผ่านมารัฐวอชิงตันฉีดวัคซีนให้กับประชากรได้เพียง 35% ของจำนวนวัคซีนที่ได้รับจากรัฐบาลกลางเท่านั้น

เจย์ อินสลี ผู้ว่าการรัฐวอชิงตัน ยอมรับว่าพวกเขาประเมินความยากของภารกิจนี้ต่ำเกินไป ทางรัฐวอชิงตันพยายามเจาะจงให้วัคซีนกลุ่มแรกกับบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมดก่อนจะเริ่มกระจายสู่ประชาชนทั่วไป

นอกจากสตาร์บัคส์แล้ว บริษัทยักษ์ใหญ่อีกแห่งที่ตั้งอยู่ในเมืองซีแอตเติลอย่าง ไมโครซอฟต์ (Microsoft) ก็เสนอตัวเข้าร่วมภารกิจนี้เช่นกัน โดยจะนำพื้นที่สำนักงานใหญ่ของบริษัท ที่กำลังว่างอยู่เนื่องจากพนักงานส่วนใหญ่ Work from Home มาใช้เป็นสถานที่รองรับการฉีดวัคซีน 5,000 คนต่อวัน