วอชิงตัน คุมเข้ม ‘ไม่ฉีดวัคซีน ห้ามเข้าเรียน’ หลังกรมอนามัยรัฐวอชิงตัน ระบุว่า ปีนี้มีรายงานพบผู้ป่วยเป็นโรคหัดแล้ว 86 ราย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของรัฐนับตั้งแต่ปี 1990
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (29 ก.ย.) หนังสือพิมพ์ซีแอตเทิลไทมส์รายงานว่า เร็วๆ นี้นักเรียนหลายพันคนในโรงเรียนรัฐบาลทั่วรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา อาจถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าชั้นเรียนเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามข้อกฎหมายใหม่ที่บังคับให้ต้องฉีดวัคซีนซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อ 2 เดือนก่อน
หลังปีการศึกษาใหม่เริ่มขึ้นไม่กี่สัปดาห์ เขตการศึกษาทั่วรัฐวอชิงตันต่างเร่งดำเนินการด้านเอกสารสำหรับนักเรียน และส่งเอกสารแจ้งเตือน “ครั้งสุดท้าย” ไปให้กับครอบครัวที่มิได้พาบุตรหลานไปฉีดวัคซีนตามที่ข้อบังคับกำหนด
สำหรับนักเรียนในโรงเรียนรัฐบาลเมืองซีแอตเทิล หากผู้ใดมิได้ฉีดวัคซีนหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน (MMR) ภายในกลางเดือนตุลาคมนี้ โรงเรียนจะส่งจดหมาย “เตือนก่อนเชิญออก” ให้แก่ครอบครัวเพื่อให้เวลา 30 วัน ในการไปฉีดวัคซีน พร้อมยื่นหลักฐานว่านักเรียนกำลังอยู่ในกระบวนการฉีดวัคซีนหรือแสดงเหตุผลการยกเว้นด้านศาสนาหรือทางการแพทย์
กฎใหม่นี้ทำให้ผู้ปกครองไม่สามารถละเว้นการฉีดวัคซีนให้ลูก ด้วยเหตุผลทางความเชื่อหรือเหตุผลส่วนตัว หากต้องการได้รับการละเว้นจะต้องเป็นเหตุผลทางศาสนาหรือทางการแพทย์เท่านั้น
อนึ่ง กรมอนามัยรัฐวอชิงตัน ระบุว่า ปีนี้มีรายงานพบผู้ป่วยเป็นโรคหัดแล้ว 86 ราย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของรัฐนับตั้งแต่ปี 1990