กระทรวงเกษตรฯ สั่งกรมชลประทานปรับลดการระบายน้ำ เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ จะเหลือเพียง 3 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน มั่นใจส่งให้ชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวได้ทั้งหมด แต่ต้องงดทำนาปรังเด็ดขาด
วันที่ 25 ส.ค. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีคำสั่งด่วนที่สุดให้กรมชลประทานดำเนินการตามแผนบริหารจัดการน้ำในกรณีน้ำน้อยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะลุ่มเจ้าพระยา ปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนหลัก 4 แห่งอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
โดยวันพรุ่งนี้ (26 ส.ค.62) กรมชลประทานจะลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ลงอีก จากปัจจุบันเขื่อนภูมิพลระบายน้ำวันละ 7 ล้านลูกบาศก์เมตร จะเหลือ 3.4 ล้านลูกบาศก์เมตร จากนั้น วันที่ 2 กันยายนจะลดลงอีกครั้ง เหลือระบายน้ำวันละ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนเขื่อนสิริกิติ์ ปัจจุบันระบายวันละ 4 ล้านลูกบาศก์เมตร จะเหลือ 3 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
ขณะที่เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนปัจจุบัน จากระบายวันละ 860,000 ลูกบาศก์เมตร จะเหลือวันละ 430,000 ลูกบาศก์เมตร ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ คงการระบายที่ 430,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
ทั้งนี้ กรมชลประทานได้ทำหนังสือแจ้งเตือน ผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัด ได้แก่ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี อุทัยธานี และพระนครศรีอยุธยา เพื่อแจ้งเรื่องการปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลและสิรกิติ์ ซึ่งขณะนี้มีปริมาณน้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนประชาชนและเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เช่น ผู้เลี้ยงปลาในกระชัง แพสูบน้ำ
“ฤดูแล้งนี้กรมชลประทานงดส่งน้ำเพื่อการทำนาปรังในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา หากเกษตรกรยังฝืนปลูกแล้วได้รับความเสียหายจะไม่ได้รับการชดเชยใดๆ ทั้งสิ้น”