“WayV” คอนเสิร์ตออนไลน์ ‘Beyond LIVE’ บุกเบิกยุคใหม่วัฒนธรรมคอนเสิร์ตด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ

WayV ประสบความสำเร็จกับคอนเสิร์ตออนไลน์ที่อัปเกรดอีกขั้น ‘Beyond LIVE’ ก้าวข้ามข้อจำกัดการไม่สัมผัสกันด้วยเทคโนโลยี พร้อมเปิดตัวบริการ ‘Sync Play’ ครั้งแรก เชื่อมต่อการแสดงสดกับการเปลี่ยนสีแท่งไฟ และเอฟเฟกต์แบบเรียลไทม์

WayV ประสบความสำเร็จกับการเป็นศิลปินลำดับที่ 2 ของคอนเสิร์ตออนไลน์รูปแบบใหม่ ‘Beyond LIVE’ ในชื่อคอนเสิร์ตที่ว่า ‘WayV – Beyond the Vision’ ซึ่งถูกถ่ายทอดสดไปทั่วโลก ผ่าน NAVER V LIVE ในวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา

สำหรับคอนเสิร์ต ‘WayV – Beyond the Vision’ ในครั้งนี้ นับเป็นคอนเสิร์ตคิดค่าบริการทางออนไลน์โดยเฉพาะที่ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของไอดอลวงจีน โดยประกอบไปด้วยการแสดงอันเหนือชั้นตามสไตล์ WayV, โปรดักชั่นเวทีที่ใช้เทคโนโลยีสุดล้ำ และการสื่อสารโต้ตอบ ฯลฯ ซึ่งพวกเขาได้โชว์การแสดงทั้งสิ้น 14 เพลง ตั้งแต่เพลงฮิตอย่าง ‘Take Off’ ‘Regular’ ‘Moonwalk’, การโชว์เพลง ‘Yeah Yeah Yeah’ เป็นครั้งแรก, การร้องเพลง ‘Love Talk’ เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ และการแสดงของยูนิตที่โชว์เสน่ห์แต่ละสมาชิก ไปจนถึงเวทีพิเศษ โดยตลอดระยะเวลาการแสดงกว่า 2 ชม. สมาชิกก็ได้เตรียมภาษาต่าง ๆ ด้วยตัวเองเพื่อจะมาสื่อสารกับแฟน ๆ ทั้งเกาหลี, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, สเปน, อินโดนีเซีย, ภาษาไทย เป็นต้น ส่วนกระแสตอบรับก็ร้อนแรงจนแฮชแท็ก ‘#WayV_beyondLIVE’ ติดเทรนด์อันดับ 1 แบบเรียลไทม์ในประเทศเกาหลี และต่างประเทศ ทั้งแบบ Worldwide และในหลายประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา, บราซิล, อินโดนีเซีย, ประเทศไทย ฯลฯ รวมถึงได้รับการกดหัวใจสูงถึง 230 ล้านดวง ยืนยันถึงความสนใจอันถล่มทลายที่มีต่อ WayV และ Beyond LIVE ได้เป็นอย่างดี

โดยไฮไลท์สำคัญของคอนเสิร์ต คือ ช่วงพูดคุยแบบวีดีโอกับแฟน ๆ ที่หนึ่งในแฟนคลับได้สื่อสารความจริงใจออกมาว่า “แม้จะไม่ได้พบกัน แต่ก็จะคอยให้กำลังใจจากตรงนี้เสมอ อย่ากังวลไปเลยนะ” สร้างความซาบซึ้งอย่างมากจนสมาชิก LUCAS (ลูคัส) ต้องหลั่งน้ำตา พร้อมตอบกลับว่า “พวกเราคอยมอบพลังดี ๆ ให้แก่กันเสมอ มาอยู่ด้วยกันตลอดไปนะ” รวมถึงแฟน ๆ ยังเซอร์ไพรส์ทำโปรเจกต์ออนไลน์ด้วยการถือป้ายกระดาษที่เขียนคำว่า ‘รัก’ ในภาษาต่าง ๆ นับเป็นการก้าวข้ามข้อจำกัดของการไม่สัมผัสกัน ด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ทำให้ศิลปิน และแฟนคลับได้ใช้เวลาอันมีความหมายนี้แชร์ความรู้สึกให้กันและกันได้แบบเรียลไทม์

นอกจากนี้ ยังได้เปิดเผยบริการ ‘Sync Play’ (ซิงค์ เพลย์) เป็นครั้งแรก ซึ่งก็คือ บริการโต้ตอบที่เชื่อมต่อแท่งไฟของแฟนคลับเข้ากับการแสดงสดแบบเรียลไทม์ ทำให้แท่งไฟสามารถเปลี่ยนสี และเอฟเฟกต์ได้ตามการแสดงเพลงต่าง ๆ ฯลฯ เรียกได้ว่า นำเสนอประสบการณ์ ‘แถวหน้าสุดในห้อง’ ให้กับแฟน ๆ โดยเชื่อมต่อกันแบบออนไลน์ และออฟไลน์จนเหมือนได้มาสนุกในคอนเสิร์ต และร่วมเชียร์อยู่ด้วยกัน

ความล้ำของเทคโนโลยียังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะในฉากเปิดเวทีเพลงแรก ‘Take Off’ ก็มีการใช้ AR สร้างภาพเสมือนอย่างสมจริง ทั้งโลโก้ขนาดใหญ่รูปตัว ‘V’ สื่อถึงวง WayV ที่คอยเปลี่ยนรูปร่างตามแสงไฟอยู่บนเวทีตลอดเวลา, เครื่องบินขนาดยักษ์ที่บินอยู่ด้านบน ฯลฯ รวมถึงการใช้ภาพกราฟิกสามมิติแบบเรียลไทม์, ตัวอักษรแสดงเนื้อเพลงหลากหลายแบบ ฯลฯ

ทั้งนี้ ‘Beyond LIVE’ (บียอนด์ ไลฟ์) คือ คอนเสิร์ตคิดค่าบริการทางออนไลน์โดยเฉพาะครั้งแรกของโลก ซึ่งเกิดจากการร่วมมือระหว่าง SM Entertainment (เอสเอ็ม เอ็นเทอร์เทนเม้นท์) และ NAVER (เนเวอร์) โดยศิลปินลำดับแรกอย่าง SuperM ก็ได้รับคำชื่นชมอย่างมากว่าบุกเบิกยุคใหม่ของวัฒนธรรมคอนเสิร์ต ส่วนไลน์อัพของ ‘Beyond LIVE’ จะมีการแสดงของเหล่าศิลปินที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยหลังจาก SuperM และ WayV ก็จะเป็นศิลปินลำดับที่สามอย่าง NCT DREAM ในวันที่ 10 พ.ค. 63, NCT 127 ในวันที่ 17 พ.ค. 63 ฯลฯ ตามด้วยกำหนดการแสดงของศิลปินทั้งในประเทศเกาหลี และนอกประเทศอีกมากมาย