ทูตตะวันตกรวมตัวหน้าศาลปักกิ่ง ถูกห้ามไม่ให้เข้าฟังพิจารณาคดี กล่าวหาชาวแคนาดาเป็นสปาย

อุปทูตแคนาดาชี้จีนไม่แสดงความโปร่งใสในการดำเนินคดี ที่ตั้งข้อหาสายลับกับพลเมืองแคนาดา

วันที่ 22 มี.ค. 2564 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า นักการทูตกว่า 20 ชาติพยายามที่จะขอเข้าไปฟังการพิจารณาคดีจารกรรมข้อมูลของ ไมเคิล คอฟริก อดีตเจ้าหน้าที่ทางการทูตของแคนาดา ที่ศาลกรุงปักกิ่ง แต่ได้รับการปฏิเสธ จึงรวมตัวกันหน้าศาลพร้อมกับให้สัมภาษณ์สื่อที่มารอทำข่าวในบริเวณดังกล่าว

จิม นิกเกิล อุปทูตรักษาราชการสถานเอกอัครราชทูตแคนาดา เปิดเผยว่า ไมเคิล คอฟริก ถูกควบคุมตัวโดยไม่มีเหตุผลมาเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว หรือระบุอย่างแน่ชัดคือ 833 วัน นี่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ เนื่องจากกระบวนการศาลนั้นปราศจากความโปร่งใส

นอกจากการเข้ามาดูแลพลเมืองของสถานทูตแคนาดาแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ทางการทูตจากชาติตะวันตกรวมทั้งสิ้น 28 คนจาก 26 ประเทศเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ในคดีนี้ ทั้งหมดถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าฟังการพิจารณาคดี โดยได้รับแจ้งว่าเป็นเรื่องความมั่นคงของชาติ

การจับกุมนายคอฟริกและ ไมเคิล สปาวอร์ พลเมืองแคนาดาอีกรายที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับ เกิดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม 2561 หลังจากที่แคนาดาได้ควบคุมตัว เมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของหัวเว่ย ตามคำร้องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนของสหรัฐฯ ตามหมายจับข้อหาฟอกเงิน

นอกจากช่วงเวลาที่จับกุมแล้ว สิ่งที่แสดงความเชื่อมโยง 2 คดีนี้เข้าด้วยกันคือการที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนออกมาบอกเมื่อปีที่แล้วว่า อาจเปิดช่องให้คลี่คลายสถานการณ์ของ 2 ผู้ต้องหาชาวแคนาดาได้ หากแคนาดาระงับการส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปสหรัฐฯ

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ แคนาดาได้ยกสนธิสัญญาเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล และข้อตกลงที่ทำไว้กับจีนที่ระบุว่าจะได้เข้าถึงกระบวนการพิจารณาคดีของพลเมืองซึ่งกันและกัน แต่ทาง หัว ชุนหยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนกลับออกมากล่าวตำหนิว่า แคนาดารวมหัวกับนักการทูตชาติอื่นเพื่อพยายามกดดันและแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของจีน