SHARE

คัดลอกแล้ว

WHART กองทรัสต์ด้านโลจิสติกส์ ลงทุนคลังสินค้า-โรงงานเพิ่มทุน 3 โครงการ มูลค่า 3,566.49 ล้านบาท ดันเงินปันผลปี 67 เพิ่มขึ้นแตะ 8.23% ต่อปี มูลค่ากองฯ แตะ 5.5 หมื่นล้านบาท ขึ้นแท่นกองรีทที่ใหญ่ที่สุดในไทย

‘จรีพร จารุกรสกุล’ ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group เปิดเผยในฐานะเจ้าของทรัพย์สิน (Sponsor) และผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ว่า

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) เป็นกองทรัสต์ที่เน้นลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงาน โดยปัจจุบันทรัพย์สินที่กองทรัสต์ WHART เข้าลงทุนทั้งหมดจะมี WHA Group เป็นผู้พัฒนาและบริหาร

ที่ผ่านมากองทรัสต์ WHART มีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง มีทรัพย์สินภายใต้บริหารจัดการกว่า 1.74 ล้านตารางเมตร สอดคล้องกับนโยบายของ WHA Group ที่ยังคงเป็นผู้สนับสนุนหลัก ในการนำทรัพย์สินคุณภาพระดับพรีเมี่ยมเข้ากองทรัสต์ WHART ทุกปีต่อเนื่อง

WHA Group ถือเป็นผู้นำในด้านการพัฒนาคลังสินค้า และโรงงาน ประเภท Built-to -Suit ซึ่งเป็นอาคารที่มีการออกแบบและพัฒนาตามความต้องการของลูกค้า และ General Warehouse ที่มีมาตรฐานระดับพรีเมี่ยม รวมทั้งยังมีการให้บริการโซลูชั่นครบวงจร ทั้งระบบสาธารณูปโภค แพลตฟอร์มโครงสร้างด้านพลังงาน และระบบดิจิตอล

โดยทุกโครงการของ WHA Group ล้วนตั้งอยู่ในพื้นที่โลจิสติกส์ที่มีศักยภาพ มีความต้องการเช่าสูง และเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์หลักของประเทศ ได้แก่ บริเวณถนนบางนา-ตราด บริเวณพื้นที่ที่สอดรับกับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นทำเลที่สามารถเชื่อมต่อทั้งตัวเมืองกรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ ท่าเรือแหลมฉบัง และถนนสายหลัก

ด้านการขนส่งและการกระจายสินค้ามีประสิทธิภาพ ทำเลกรุงเทพตอนเหนือ (วังน้อย-สระบุรี) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สำคัญในการกระจายสินค้าไปยังภาคเหนือและภาพตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงทำเลจังหวัดสมุทรสาครที่เป็นพื้นที่หลักสำหรับกระจายสินค้าในโซนกรุงเทพฝั่งตะวันตก

ทั้งนี้ ในฐานะผู้นำด้านนิคมอุตสาหกรรม-โลจิสติกส์ของประเทศ มองว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากกระแสการย้ายฐานการลงทุนและฐานการผลิตมายังประเทศไทย ส่งผลให้ความต้องการใช้ที่ดินอุตสาหกรรมของนักลงทุนชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สอดคล้องนโยบายภาครัฐบาลที่ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการลงทุนจากทั่วโลก

โดยกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ จะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมแรกๆ ที่เพิ่มมูลค่าการลงทุนให้กับประเทศ ยิ่งไปกว่านั้นประเทศไทยมีศักยภาพและความพร้อมที่จะก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยุคใหม่ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นอกเหนือจากการเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ครบวงจรชั้นนำของโลก

ปัจจุบัน WHA Group มีนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ระหว่างดำเนินการในประเทศไทย จำนวน 12 แห่ง และยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนให้ครอบคลุมทำเลยุทธศาสตร์สำคัญในประเทศ พร้อมแสวงหาโอกาสใหม่ๆ

โดยมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า อีคอมเมอร์ซ และอุตสาหกรรมในกลุ่ม New S-curve ตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์แบบครบวงจร โดยมีโครงสร้างพื้นฐาน และระบบสาธารณูปโภคที่ได้มาตรฐานระดับโลก

‘อนุวัฒน์ จารุกรสกุล’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART) เปิดเผยว่า

ปัจจุบันกองทรัสต์ WHART เป็นกองทรัสต์ประเภทอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีมูลค่าทรัพย์สินกว่า 51,000 ล้านบาท และมีโครงการภายใต้กว่าบริหารจัดการ 39 โครงการ หรือพื้นที่ประมาณ 1.74 ล้านตารางเมตร ในปี 2566 นี้

กองทรัสต์ WHART ประกาศเดินหน้าตอกย้ำสู่การขยายอาณาจักรการเป็นผู้นำกองทรัสต์ประเภทอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายหลังจาการเพิ่มทุนในปี 2566 จำนวนไม่เกิน 195.90 ล้านหน่วย เพื่อลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมในปี 2566 มูลค่าไม่เกิน 3,566.49 ล้านบาท

ทั้งนี้ ภายหลังการลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินครั้งนี้ จะส่งผลให้กองทรัสต์ WHART มีมูลค่าทรัพย์สินรวมแตะ 55,000 ล้านบาท ถือเป็นกองทรัสต์ประเภทอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวมมากที่สุดในประเทศ โดยมีพื้นที่เช่าภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1.89 ล้านตารางเมตร พื้นที่เช่าหลังคา 487,243.29 ตารางเมตร

โดยเป็นอาคารคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และอาคารโรงงาน ที่พัฒนาขึ้นตามความต้องการของลูกค้า (Built-to-Suit) และแบบสำเร็จรูป (General Warehouse) สำหรับทรัพย์สินที่กองทรัสต์ WHART จะเข้าลงทุนในครั้งนี้ จำนวน 3 โครงการ ประกอบด้วย

1. โครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ เทพารักษ์ กม. 21 เป็นคลังสินค้า รูปแบบ Built-to-Suit และ General Warehouse พื้นที่เช่า 90,862 ตร.ม.

2. โครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ แหลมฉบัง โปรเจค 1 เป็นคลังสินค้า รูปแบบ General Warehouse พื้นที่เช่า 24,310 ตร.ม

3. โครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ บางนา-ตราด กม.23 โปรเจค 3 เป็นคลังสินค้า และโรงงานแบบ General Warehouse พื้นที่เช่า 27,724 ตร.ม.

ความโดดเด่นการเพิ่มทุนในครั้งนี้ ได้แก่ตัวของทรัพย์สินเอง ซึ่งทั้ง 3 โครงการที่เข้าลงทุน ถือเป็นโครงการที่มีคุณภาพ ตั้งอยู่ในทำเลโลจิกติกส์ที่สำคัญ อย่างบางนา-ตราดและ EEC อีกทั้งยังมีกลุ่มผู้เช่าที่มาจากกลุ่มธุรกิจที่มีความมั่นคงอย่างกลุ่มผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ (Third Party Logistics) และกลุ่มผู้ผลิต (Manufacturer)

ซึ่งการได้ผู้เช่าที่ดีในกลุ่มอุตสาหกรรม ส่งผลให้กองทรัสต์ WHART มีการรับรู้รายได้จากการลงทุนที่มั่นคง และสร้างประโยชน์ตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ ทั้งนี้ การที่กองทรัสต์ WHART มีการขยายขนาดกองทรัสต์จากการลงทุนเพิ่มเติมในทุกปี ส่งผลให้กองทรัสต์ฯ มีความมั่นคงทางรายได้ที่เพิ่มขึ้น

รวมถึงยังกระจายความเสี่ยง ไม่ว่าจะในด้านของทำเลทรัพย์สินที่ลงทุน สัญชาติของผู้เช่า รวมถึงความหลากหลายของกลุ่มธุรกิจของผู้เช่า (Business Sector) ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ช่วยทำให้ภาพรวมผลประกอบการของกองทรัสต์ WHART อยู่ในระดับที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดกองทรัสต์ WHART แจ้งผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปี 2566 รายได้รวมเท่ากับ 840.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.29 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 4.90 จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการรับรู้รายได้จากการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมในปี 2565 เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2565 และมีกำไรจากการลงทุนสุทธิ เท่ากับ 644.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.20 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.42 จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

‘สาวิตร ศรีศรันยพงศ์’ ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ WHART เปิดเผยว่า สถานการณ์ลงทุนปัจจุบันถือว่าเป็นจังหวะและโอกาสในการลงทุนในกองทรัสต์ (REIT) เนื่องจาก ปัจจุบันมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแล้ว ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนในกอง REIT

โดยทางธนาคารมีความเห็นว่าสินทรัพย์ประเภทกอง REIT เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่แนะนำลงทุน ด้วยคุณสมบัติสินทรัพย์ที่มีโอกาสรับผลตอบแทนจากเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการเลือกลงทุนในกองทรัสต์ที่ลงทุนในทรัพย์สินที่มีความมั่นคงจากรายได้ค่าเช่า และมีความต่อเนื่องและเติบโตของทรัพย์สินในระยะยาว

‘จิตติสา เจริญพานิช’ ผู้บริหารงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ WHART เปิดเผยว่า กองทรัสต์ WHART เป็นกองทรัสต์ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงที่สุดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

โดยมีมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท และยังเป็นผู้นำกองทรัสต์ในกลุ่มคลังสินค้าและอุตสาหกรรม มีศักยภาพในการเติบโตด้วยทรัพย์สินที่แข็งแกร่ง สามารถจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์อย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ก่อตั้งกองทรัสต์ มีเครดิตเรตติ้งที่ดี และที่สำคัญคือมี WHA Group เป็นเจ้าของทรัพย์สินและผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการันตีถึงคุณภาพของทรัพย์สินได้เป็นอย่างดี

โดยภายหลังจากการเข้าลงทุนในทรัพย์สินหลักเพิ่มเติมในครั้งนี้ กองทรัสต์ WHART ได้ประมาณการจ่ายประโยชน์ตอบแทนต่อหน่วยแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เท่ากับ 0.79 บาทต่อหน่วย สำหรับรอบประมาณการตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. พ.ศ. 2567 หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายประโยชน์ตอบแทนประมาณร้อยละ 8.23 * (ขึ้นอยู่กับราคาเสนอขายสุดท้าย)

สำหรับการเพิ่มทุนของกองทรัสต์ WHART ครั้งนี้ ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมมีสิทธิสามารถจองซื้อได้ในวันที่ 1-8 ธ.ค. 2566 ที่ราคาสูงสุดที่ 9.60 บาทต่อหน่วย ทั้งนี้ หากราคาเสนอขายสุดท้ายต่ำกว่าราคาสูงสุดจะทำการคืนเงินส่วนต่างราคาให้กับผู้จองซื้อ โดยนักลงทุนที่สนใจสามารถจองซื้อได้ผ่านเว็บไซต์ K-My Invest (www.kasikornbank.com/kmyinvest) และสาขาของ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

ส่วนประชาชนทั่วไปสามารถจองซื้อในวันที่ 13-18 ธ.ค. 2566 โดยจะทำการชำระเงินจองซื้อที่ราคาสุดท้าย โดยนักลงทุนที่สนใจสามารถจองซื้อได้ผ่าน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)

* อ้างอิงประมาณการผลตอบแทนของกองทรัสต์ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2567 ตามที่ได้ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน บนสมมติฐานราคาเสนอขายสูงสุดไม่เกิน 9.60 บาทต่อหน่วย

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า