รวมไอเท็มของฝากไทยๆ ฮิตติดมือนักท่องเที่ยว

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของกรท่องเที่ยวในปีที่ผ่านมามีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไม่ต่ำกว่า 28 ล้านคนแล้ว สร้างรายได้ 1.2 ล้านล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย , จีน,เกาหลีใต้,อินเดีย , และรัสเซีย

หนึ่งวัฒนธรรมสากลในการท่องเที่ยวคือการซื้อ “ของฝาก” กลับบ้านเพื่อให้กับครอบครัว เพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงานหรือแม้แต่คู่ค้าทางธุรกิจ ซึ่งช่วงก่อนโควิดหรือในปี 2662 ตลาดของขวัญ ของชำร่วย และของตกแต่งบ้านทั้งในประเทศและส่งออก มีมูลค่ารวมกว่า 64,000 ล้านบาท เฉพาะตลาดของที่ระลึกขายให้กับนักท่องเที่ยวมีสัดส่วนมากถึง  43.8 % คิดเป็นมูลค่ามากกว่าปีละ 28,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในปี 2567 รัฐบาลไทยได้กำหนดเป้าหมาย ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยแตะ 40 ล้านคน สร้างรายได้ให้ถึง 3.5 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวภายในประเทศ 1 ล้านล้านบาท และรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.5 ล้านล้านบาท คาดว่าจะช่วยสนับสนุนให้อุตสาหกรรมของฝากของที่ระลึกของไทยเติบโตตามไปด้วย

โดยของฝากจากไทยที่ต่างชาตินิยมซื้อฝากซื้อกลับมักเป็นผลิตภัณฑ์ที่น้ำหนักเบา ไม่กินพื้นที่กระเป๋าแต่ได้ความเป็นไทยอาทิเช่น

อาหารไทย สตรีทฟู๊ด

อาหารไทยและสตรีทฟู๊ดเป็นที่นิยมอย่างมากใน ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ภูกประปากนักท่องเที่ยว ราคาที่เข้าถึงได้แม้ว่าจะไม่สามารถนำอาหารปรุงสดกลับไปได้แต่ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์อาหารไทยกึ่งสำเร็จ  รูปให้นักท่องเที่ยวหิ้วกลับประเทศได้สะดวก

นอกจากนี้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขนมขบเคี้ยวรสชาติไทยๆรวมไปถึงผงเครื่องปรุงและเครื่องแกงก็เป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติในการซื้อเป็นของขวัญของฝากเช่นกัน เช่น หมึกกรอบ เบนโตะ,เลย์รสเมี่ยงคำ,ผัดไทกึ่งสำเร็จรูป,มาม่ารสต้มยำ ฯลฯ

ผลไม้อบแห้ง มะม่วง ทุเรียน เผือก

ประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่องผลไม้อบแห้ง เป็นอีกไอเท็มที่โดนใจนักท่องเที่ยว ทั้งไทยและต่างชาติ เป็นหนึ่งในของฝากที่นักท่องเที่ยวนิยมซื้อกลับอย่างคับคั่ง เพราะผลไม้อบแห้งจากประเทศไทย คุณภาพดี และขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติ โดยเฉพาะผลไม้เมืองร้อน เช่น มะม่วง ทุเรียน เผือก  เพราะเก็บได้นาน และมีให้เลือกมากมายหลายแบรนด์ ทั้งแบรนด์ตั้งแต่ Low cost ไปจนถึงบริษัทส่งออกรายใหญ่ของประเทศ อย่าง ‘CH’ ซึ่งส่งออกผลไม้อบแห้งมากกว่า 30 ชนิด โดยเฉพาะมะม่วงอบแห้งและขนมทางเลือกเพื่อสุขภาพ ครอบคลุมการส่งออกมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และล่าสุดทางบริษัท ‘CH’ ได้เปิดตัวแบรนด์น้องใหม่

‘Bangkok Tasty’ ความอร่อยของวัฒนธรรมไทยที่พกพาได้ แบรนด์นี้มีจุดเด่นและจุดต่างกว่าแบรนด์ของฝากนักท่องเที่ยวแบรนด์อื่นๆด้วยการเป็นตัวแทน การส่งมอบวัฒนธรรมไทย และ Soft Power ของไทย ผ่านการสื่อสารด้วยมาสคอต ‘น้องสไบ’ ตัวแทนความน่ารัก สดใส เปรียบเสมือน สยามเมืองยิ้ม ที่ส่งเสริมคุณค่าความเป็นไทยเล่าเรื่องสอดแทรกไว้ในกลิ่นรสและกลิ่นอายของสินค้า รวมถึงกิจกรรมการตลาดต่างๆมากมาย ให้ทุกคำที่คุณกัด เพลิดเพลิน เหมือนได้มาเที่ยวที่ประเทศไทยอีกครั้ง

สินค้า Bangkok Tasty การันตีคุณภาพและรสชาติเอกลักษณ์แบบไทย ด้วยการได้รับรางวัลคุณภาพมากมายจากเวทีงานแสดงสินค้าทั่วโลก อาทิ มะม่วงอบแห้ง คว้ารางวัล Superior Taste Award 2022 (Belgium) Boxset  ขนมไทยอบกรอบ 5 รสชาติ คว้ารางวัล SIAL Snacking Awards 2023 ข้าวเหนียวทุเรียนอบกรอบ ได้รางวัล Finalists Hongkong Quality Veggie Awards 2024 (Hong Kong) ตามมาด้วยเผือกอบกรอบ ล่าสุดที่คว้ารางวัล Finalist SIAL Innovation Shanghai 2024 (China) ตามลำดับ

มาลิ้มลองความอร่อยได้แล้วที่ BigC / Lotus / Gourmet Market / Moshi / และ 7-11

นมอัดเม็ดสวนจิตรลดา-ดอยคำ

อีกหนึ่งไอเท็มที่เคยโดยนักท่องเที่ยวจีนเหมาๆจนขาดตลาดไปพักใหญ่สำหรับ ‘นมอัดเม็ด’ สวนจิตรลดาและดอยคำ ผลิตภัณฑ์นมแปรรูป ที่คงรสชาตินมเข้มข้นเต็มรสชาติและได้ประโยชน์ จากกำลังการผลิตไม่เพียงพอรองรับดีมานด์ของนักท่องเที่ยวได้เพราะเดิมสามารถผลิตได้เพียงวันละ 7 หมื่นเม็ดก่อนจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น แสนเม็ดต่อวัน

อย่างไรก็ตามปัจจุบันนอกจากนมอัดเม็ดสวนจิตรลดาและดอยคำแล้วยังมีแบรนด์ใหม่ๆเข้ามาในตลาดจำนวนมาก เพื่อรองรับดีมานด์ของนักท่องเที่ยวที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง

มาดามเฮง

สมุนไพรไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในรูปไหนก็ตามรวมทั้ง สบู่สมุนไพร ‘มาดามเฮง’ แพกเกจสวยคลาสสิก กลิ่นสมุนไพรหอมๆ และโพรดักซ์ที่หลากหลายตอบโจทย์หลายกลุ่ม ทั้งสบู่สำหรับผิวกาย ผิวหน้า สบู่สิวสมุนไพร สบู่เด็ก รวมทั้งสบู่สมุนไพรรูปทรงน่ารักๆอย่างหมี หรือรูปทรงมงคลอย่าง ส้ม ที่ขายดีอย่างมากในช่วงเทศกาลต่างๆ เพื่อนำไปเป็นของขวัญของฝากอีกด้วย

กระเป๋าผ้า นารายา

เป็นอีกหนึ่งรายชื่อของฝากที่ต่างชาติลิสต์ไว้เป็นอันดับต้นๆ  ด้วยดีเทลการตัดเย็บที่ประณีตเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และคงไว้ซึ่งกลิ่นอายความเป็นไทย บวกกับภาพลักษณ์ดูอ่อนหวาน เรียบร้อย เน้นลายดอกไม้เน้นเจาะกลุ่มตลาดแม่บ้าน เด็กผู้หญิง และวัยรุ่น  นอกจากนี้ยังแตกไลน์แบรนด์ Nara กระเป๋าพรีเมียมเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าผู้ชาย ด้วยดีไซน์ที่สามารถใช้งานอเนกประสงค์  ใช้ได้นาน ทนทานมาก จะเน้นใส่ของจุ ใช้ได้หลายโอกาส  แมทช์ได้กับการแต่งตัวหลายสไตล์ราคาย่อมเยาว์ทำให้มัดใจชาวต่างชาติได้ไม่ยากโดยเฉพาะคนจีนมักจะ เรียกติดปากว่า ‘ม่านกู่ เปา’

ยาอมตาตะขาบ 5 ตัว

ยาอมแก้ไอสมุนไพรที่แก้เจ็บคอได้อย่างชะงักงัน  แม้ว่ารสชาติในช่วงแรกๆจะมีความขม แต่จะหวานขึ้นจากสมุนไพรล้วนไม่ใส่น้ำตาลในช่วงหลังเป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนด้วยสรรพคุณและรสชาติคุ้นลิ้นชาวจีนเพราะเจ้าของเป็นชาวจีนที่อพยพมาอยู่ที่ฉะเชิงเทรา

ประกอบกับราคาที่ถูก ขนาดเล็กขนกลับประเทศได้ง่าย ไม่เปลืองพื้นที่กระเป๋า ภาพของแบรนด์ที่จำได้ง่าย  ซึ่ง ยาอมตาตะขาบ 5 ตัว มีสัดส่วนการขายให้ต่างชาติมากถึง 76% และขายให้คนในประเทศแค่ 24% ความฮอตของของยาอมตาตะขาบทำให้ผลิตไม่พอขาย สินค้าขาดตลาดเป็นบางช่วงจนผู้ผลิต บริษัท ห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) ต้องสร้างโรงงานเพิ่มเพื่อขยายกำลังการผลิตเลยทีเดียว

แน่นอนว่า ‘ของฝาก’ ไทยแม้จะเป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ และกำลังซื้อสำคัญก็ยังมาจาก นักท่องเที่ยวจีน ล่าสุดรายงานจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครคุณหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระบุว่าอุตสาหกรรมเศรษฐกิจของขวัญในจีนกำลังเติบโตอย่างมาก จากการรับวัฒนธรรมการเฉลิมฉลองเทศกาลของตะวันตกมากขึ้นทำให้เพิ่มความถี่ในการมอบของขวัญ

เป็นโอกาสของสินค้าไทยที่จะขยายในตลาดจีน ซึ่งสามารถทําบรรจุภัณฑ์สําหรับวันเทศกาลต่างๆได้ เช่น สินค้าอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าเพื่อสุขภาพ สินค้าเครื่องสําอาง หรือของตกแต่งบ้าน นอกจากนี้ปัจจุบันคนจีนให้ความสําคัญกับการรักษาสุขภาพ สินค้าเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม สินค้าที่ทําจากสมุนไพรก็เหมาะที่จะมอบให้เป็นของขวัญในช่วงวันสำคัญเช่นเดียวกัน