SHARE

คัดลอกแล้ว

ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 5 ราย เป็ยผู้เดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์, อิตาลี, สหราชอาณาจักรและสหรัฐ รวมยอดติดเชื้อสะนม 3,866 ราย รักษาหายแล้ว 3,707 ราย ด้านองค์การอนามัยโลกชื่นชมไทยไทยต่อสู้กับการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ได้อย่างดีเยี่ยม

วันที่ 14 พ.ย.2563 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส (Dr. Tedros Adhanom Ghebreyesus) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) ชื่นชมบทบาทการเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีไทย รวมทั้งการทำงานด้านสาธารณสุขของไทย ในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกได้กล่าวในพิธีปิดการประชุมสมัชชาอนามัยโลก สมัยที่ 73 (World Health Assembly 2020) โดยขอบคุณประเทศไทยที่สนับสนุนการทำงานขององค์การอนามัยโลก และชื่นชมประเทศไทยที่เป็นตัวอย่าง ต้นแบบของการประสบความสำเร็จ ในการบูรณาการความร่วมมือของภาครัฐและภาคประชาสังคมต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 แม้จะยังไม่มีวัคซีน ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่มีการรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 นอกจากจีน อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยซึ่งมีประชากรกว่า 70 ล้านคน และเป็นประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่าประชากรหนาแน่นแห่งหนึ่งของโลก กลับมีตัวเลขผู้ติดเชื้อน้อยกว่า 4 พันคน และผู้เสียชีวิตมีเพียง 60 คน ซึ่งความสำเร็จของไทยนี้ไม่ใช่เรื่องความบังเอิญ แต่เป็นเพราะการดำเนินนโยบายของไทยอย่างจริงจัง และตลอด 40 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ลงทุนในโครงสร้างทางด้านสาธารณสุข เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการต่อสู้กับโรคภัยตามหลักการของสาธารณสุขสากล

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอบคุณองค์การอนามัยโลกที่ได้ชื่นชมการดำเนินมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ของไทย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ไม่เพียงเป็นความสำเร็จของรัฐบาลเท่านั้น แต่เป็นความสำเร็จร่วมกันของทุกภาคส่วน และที่สำคัญเป็นผลมาจากรัฐบาลได้รับความร่วมมือที่ดีจากประชาชนคนไทยทุกคน

ขณะที่สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยวันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย ทุกรายเป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศ เข้ากักตัวในสถานกักตัวที่รัฐจัดให้ และสถานกักตัวที่รัฐกำหนด มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 10 ราย ทำให้ผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,707 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 95.89 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 99 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 2.56 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 60 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,866 ราย

ผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้เป็นชาวไทย 3 ราย เดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์ 1 ราย, สหราชอาณาจักร 2 ราย ทั้งหมดเข้ารับการกักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) โดย 2 รายตรวจพบเชื้อ ไม่แสดงอาการ และอีก 1 ราย มีอาการไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และ ปวดศรีษะ เข้ารับรักษาในโรงพยาบาลตามระบบ

ชาวต่างชาติ 2 ราย เดินทางมาจากประเทศอิตาลี 1 ราย, สหรัฐอเมริกา 1 ราย เข้ารับการกักตัวในสถานที่รัฐกำหนด (Alternative State Quarantine) ทั้งหมดตรวจพบเชื้อ ไม่แสดงอาการ เข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชน โดยค่าใช้จ่ายคิดจากประกันโควิด19 ที่ผู้เข้ารับการกักตัวทำไว้ก่อนเดินทางเข้าประเทศ

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกชื่นชมบทบาทการเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรี ที่มีการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยว และชื่นชมนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทวงสาธารณสุข ที่ให้การสนับสนุนข้อริเริ่มขององค์การอนามัยโลกในการสร้างคลังเก็บรักษาทรัพยากรชีวภาพ เพื่อส่งเสริมการแบ่งปันตัวอย่างเชื้อ สำหรับใช้ในการพัฒนายา และวัคซีน ให้เป็นประโยชน์สาธารณะ พร้อมยกให้ประเทศไทยเป็นต้นแบบของการประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด 19 แม้จะยังไม่มีวัคซีน ซึ่งมีเครือข่าย อสม. ทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาดูสอดส่องเฝ้าระวังในระดับท้องถิ่น ทำให้ประเทศไทยสามารถควบคุมโรคได้ดี

สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด 19 ทั่วโลกวันนี้ มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 656,150 ราย มีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกแล้วกว่า 53 ล้านราย ซึ่งขณะนี้ทั่วโลกได้เร่งคิดค้นพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ซึ่งถือว่ารุดหน้า สร้างความหวังให้กับประชาชนทั่วโลกเป็นอย่างมาก สำหรับประเทศไทยได้เร่งรัดการจัดหาวัคซีนโควิด 19 ทั้งการการจองล่วงหน้าผ่าน COVAX Facility และการตกลงแบบทวิภาคี, การเจรจาความร่วมมือรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนโควิด 19 และการพัฒนาวัคซีนเองในประเทศ เพื่อให้เป็นประเทศอันดับต้นของโลกที่ได้รับวัคซีนมาฉีดให้กับคนในประเทศ อย่างไรก็ตามขณะที่อยู่ระหว่างการรอการได้มาซึ่งวัคซีน ขอให้ทุกคนป้องกันตัวเองตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขได้แนะนำไว้ตั้งแต่ต้น ได้แก่ การสวมหน้ากาก อยู่ห่าง ล้างมือ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด ซึ่งถือเป็นวัคซีนธรรมชาติที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย สามารถป้องกันการแพร่ สัมผัสเชื้อโควิด 19 และ โรคระบบทางเดินหายใจอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยข้อมูลจากกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบว่าตั้งแต่เดือน มกราคม – ตุลาคม 2563 มีผู้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ 116,052 ราย เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 มีผู้ป่วย 343,529 ราย ซึ่งเท่ากับลดลงถึง 2 ใน 3 ของผู้ป่วยปีที่ผ่านมา

สำหรับโรคไข้หวัดใหญ่และโควิด 19 มีการแสดงอาการป่วยที่ใกล้เคียงกัน ในช่วงที่สถานการณ์โควิด 19 ยังไม่เป็นที่น่าวางใจ แม้ว่าภาครัฐจะมีมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคที่เข้มแข็ง แต่อาจพบผู้ติดเชื้อในประเทศได้ ขอให้ทุกคนสังเกตอาการป่วยของตนเองตนเองหากพบว่ามีอาการ ไข้ ไอ อาการระบบทางเดินหายใจ การรับรสและกลิ่นลดลง ให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า