องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้มีการเปลี่ยนแปลงคำแนะนำสำหรับแนวทางการใช้หน้ากากในการรับมือกับไวรัสโควิด-19 โดยระบุว่า ผู้ที่ไม่มีอาการป่วยควรสวมหน้ากากที่ไม่ใช่สำหรับใช้งานทางการแพทย์ ในกรณีที่ไม่สามารถเว้นระยะห่างทางสังคมได้ แม้จะมีหลายประเทศออกกฎหรือแนะนำให้ประชาชนปฏิบัติเช่นนั้นแล้ว
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 เม.ย. ทางไกด์ไลน์ของ WHO ระบุแนวทางปฏิบัติสำหรับการสวมหน้ากากว่าให้สวมใส่หน้ากากทางการแพทย์เฉพาะผู้ที่มีอาการป่วยหรือสงสัยว่าจะได้รับเชื้อ แต่ไม่ได้แนะนำให้บุคคลทั่วไปสวมหน้ากากชนิดใด ๆ โดยให้เหตุผลว่ายังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะตัดสินใจได้ว่าจะแนะนำหรือห้ามไม่ใส่หน้ากาก
จนมาถึงวันที่ 5 มิ.ย. ก็ได้มีคำแนะนำฉบับใหม่จำนวน 16 หน้าเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของ WHO มีการระบุแนวทางการใช้หน้ากากชนิดต่าง ๆ อย่างละเอียด และแนะนำให้รัฐบาลแต่ละประเทศทำการรณรงค์ให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากผ้าในกรณีที่ต้องเข้าไปในสถานที่ที่มีคนรวมตัวกันจำนวนมาก
โดยประเภทของหน้ากากผ้าที่แนะนำคือมีผ้าอย่างน้อย 3 ชั้น มีลักษณะรูปทรงที่ปิดทั้งจมูก แก้ม และคาง ต้องไม่ขยับเปลี่ยนรูปทรงเวลาพูด และไม่จำเป็นต้องเคลือบสารกันน้ำ
สำหรับกรณีที่หน้ากากผ้าขาดแคลนสามารถใช้เฟซชิลด์แทนได้ แต่ว่าจะมีประสิทธิภาพด้อยกว่าหน้ากากผ้าในการป้องกันฝอยละออง
ส่วนหน้ากากอนามัยที่ใช้ในทางการแพทย์นั้นควรสงวนไว้ให้บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ที่ต้องสงสัยว่าได้รับเชื้อ ผู้ป่วย และผู้ที่มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วยเท่านั้น
องค์การอนามัยโลกยังได้ย้ำว่าแนวปฏิบัติอื่นทั้งการเว้นระยะห่างทางสังคมและการรักษาความสะอาด ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสในช่วงนี้