WHO เตือนทั่วโลกออกคำสั่งระงับเดินทางสกัดโอไมครอนแบบเหวี่ยงแห เสี่ยงเกิดการปกปิดข้อมูลในอนาคต

องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือน การใช้มาตรการห้ามเดินทางเข้าประเทศแบบเหวี่ยงแหเพื่อสกัดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน อาจทำให้เกิดการปกปิดข้อมูลไวรัสกลายพันธุ์ในอนาคต

วันที่ 1 ธ.ค. 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาเตือนว่า คำสั่งห้ามเดินทางเข้าประเทศสาดกระจายแบบเหวี่ยงแห (Blanket Travel Bans) จะไม่ช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน แม้หลายประเทศจะประกาศใช้มาตรการดังกล่าวแล้วก็ตาม

แม้ WHO จะจัดให้ไวรัสโอไมครอนเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล แต่ WHO ก็เตือนว่า คำสั่งห้ามเดินทางแบบเหวี่ยงแหมีแต่จะสร้างภาระหนักต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน อีกทั้งยังทำให้ประเทศต่างๆ ขาดความกระตือรือร้นที่จะรายงานและเผยแพร่ข้อมูลด้านระบาดวิทยาและลำดับทางพันธุกรรมของไวรัส

ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO กล่าวถึงการใช้มาตรการสาดกระจายแบบเหวี่ยงแหและไม่เหมาะสมอย่างที่บางประเทศกำลังทำอยู่ว่า ไม่ได้ตั้งอยู่บนหลักฐานสนับสนุนหรือมีประสิทธิภาพมากพอ พร้อมกับเรียกร้องประเทศต่างๆ ใช้มาตรการลดความเสี่ยงโดยคำนึงถึงเหตุผลและความเหมาะสมตามข้อกำหนดของกฎอนามัยระหว่างประเทศ (IHR)

ขณะเดียวกัน ดร.กีบรีเยซุสยังกล่าวขอบคุณบอตสวานาและแอฟริกาใต้ที่รายงานการตรวจพบสายพันธุ์โอไมครอนอย่างรวดเร็ว ในระหว่างการประชุมสมัชชาอนามัยโลกเกี่ยวกับสายพันธุ์โอไมครอนเมื่อวันอังคาร (30 พ.ย.) พร้อมกับแสดงความกังวลที่ประเทศเหล่านี้กำลังถูกประเทศอื่นลงโทษเพราะทำในสิ่งที่ถูกต้อง

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า WHO ได้รับรายงานการตรวจพบไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนเป็นครั้งแรกในแอฟริกาใต้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยจนถึงขณะนี้มีหลายประเทศและภูมิภาคที่ยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ส่งผลให้ประเทศต่างๆ เริ่มใช้มาตรการจำกัดการเดินทางที่เข้มงวดยิ่งขึ้น รวมถึงการระงับเที่ยวบินจากหลายประเทศในทวีปแอฟริกา

“มีการคาดการณ์ถึงแนวโน้มที่ว่า จะมีหลายประเทศที่ตรวจสอบไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มขึ้น เนื่องจากรัฐบาลของประเทศต่างๆ เริ่มยกระดับการเฝ้าระวังและการตรวจหาลำดับพันธุกรรมของไวรัส” WHO ระบุในคำแนะนำการเดินทางฉบับแก้ไข พร้อมเสริมว่า ณ วันที่ 28 พ.ย. ว่ามี 56 ประเทศที่ใช้มาตรการควบคุมการเดินทางเพื่อสกัดไม่ให้ไวรัสโอไมครอนเข้ามาระบาดในประเทศ

อย่างไรก็ตาม WHO แนะนำให้ “ผู้ที่รู้สึกไม่สบายหรือมีความเสี่ยงเป็นโรคโควิด-19 อาการรุนแรง และกำลังจะเสียชีวิต รวมถึงผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป หรือผู้มีโรคประจำตัว อาทิ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน” ควรเลื่อนแผนการเดินทางออกไปก่อน