SHARE

คัดลอกแล้ว

ตลาดสมาร์ทโฟนทุกวันนี้ พูดได้เต็มปากแล้วว่าเป็น Red Ocean มีผู้เล่นหนาแน่น และมีเจ้าใหญ่ที่ครองส่วนแบ่งตลาดอยู่คือ Samsung, Apple, Xiaomi ยังไม่นับแบรนด์ที่คนรู้จักอยู่แล้วอย่าง Vivo, Oppo, Huawei, RealMe, ROG, OnePlus ที่รวมๆ แล้ว ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ตั้งแต่คนรายได้สูง รายได้น้อย คนทำงานทั่วไป คนเล่นเกมหนักๆ 

ดังนั้น จึงเป็นเรื่องยากพอสมควรที่จะมีแบรนด์ใหม่ เกิดขึ้นมาในตลาดทะเลเดือดนี้

แต่ถึงอย่างนั้น ก็มีแบรนด์มือถือใหม่เกิดขึ้นจนได้ นั่นคือ Nothing Phone ซึ่งถ้าใครตามวงการมือถือก็จะรู้ว่า คนให้ความสนใจและรู้สึกไฮป์กับมือถือตัวนี้พอสมควร

ด้วยชื่อแบรนด์  Nothing และดีไซน์ตัวเครื่องที่ใช้ฝาหลังโปร่งใส มองเห็นชิ้นส่วนข้างในชัดเจน ทำให้มือถือเครื่องนี้ มีความเตะตาคนตั้งแต่แรกเห็น 

ล่าสุด แบรนด์ Nothing เปิดตัวมือถือเครื่องแรกอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ (12 ก.ค. เวลา 22.00 น.) และข่าวดีคือ นำเข้ามาขายในไทยด้วย ได้รับอนุญาตจาก กสทช. เรียบร้อยแล้ว 

[ Nothing คือใคร ทำไมต้อง Nothing ]

ก่อนจะพาไปดูรายละเอียดของ Nothing Phone เรามาทำความรู้จักกับแบรนด์ Nothing กันก่อน

แบรนด์ Nothing เป็นแบรนด์ใหม่ในวงการมือถือก็จริง แต่ผู้ก่อตั้งไม่ใช่หน้าใหม่ เขาคือ Carl Pei ผู้ร่วมก่อตั้ง OnePlus ที่ลาออกจากบริษัทเดิมมาสองปีที่แล้ว 

การที่ได้ผู้ร่วมก่อตั้ง OnePlus มาทำเอง ทำให้คนทั่วไปรู้สึกตั้งความหวัง เพราะ OnePlus ก็เคยสร้างชื่อไว้ดี บางคนเรียก OnePlus ว่านักฆ่าเรือธง เสียงวิจารณ์ก็เป็นไปในทางบวกด้วย

Nothing มีสำนักงานใหญ่ในลอนดอน ตั้งเป้าผลิตและขายฮาร์ดแวร์สมาร์ทดีไวซ์ ซึ่งจะไม่จำกัดอยู่แค่มือถือเท่านั้น ก่อนหน้านี้ Nothing เปิดตัวสินค้าชิ้นแรกของบริษัทคือ Ear (1) ไปแล้ว มีสีขาวและดำ ดีไซน์เน้นความโปร่งใส มองทะลุเห็นข้างในได้ 

ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมชื่อบริษัทถึงเป็น Nothing คำนิยามของบริษัทน่าจะตอบคำถามนี้ได้ 

การจะทำอะไรสักอย่างมันง่าย และง่ายยิ่งขึ้นเมื่อสิ่งที่ทำนั้นมันเหมือนกับสิ่งที่มีมาก่อนแล้ว แต่ก็เหมือนกับสิ่งที่ดีๆที่เคยถูกสร้างมา สิ่งที่เราทำมันเริ่มต้นขึ้นมาจากศูนย์ ไม่มีบันทึก ไม่มีพิมพ์เขียว ไม่มีแผนที่ที่จะให้เราหันหลังกลับ”

[ Glyph Interface สเปกที่ไม่เหมือนใครของ Nothing Phone ]

กลับมาที่มือถือ Nothing Phone เครื่องแรกเปิดตัวโดยใช้ชื่อว่า Nothing Phone วงเล็บ 1 ซึ่งก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ทางแบรนด์ก็เผยรายละเอียดหลายอย่างผ่านบล็อกแล้ว ตั้งแต่สเปกกล้อง, ตัวอย่างรูปถ่าย และยังส่งมือถือให้อินฟลูเอนเซอร์ไปลองใช้มาก่อนแล้วด้วย

ตัวรูปลักษณ์ของ Nothing Phone ดูเผินๆ ก็คล้าย iPhone 12 ที่ฝาหลังโปร่งใส ซึ่งสิ่งที่ Nothing Phone ต่างจากมือถืออื่นจริงๆ คือ ลูกเล่นไฟ LED ตรงฝาหลัง ที่ทำออกมาหลายแบบ 

จังหวะกะพริบของไฟ ซิงค์กับริงโทนที่เราใช้ เรารู้ได้เลยทันทีว่าใครโทรมาในกรณีที่มือถือวางคว่ำอยู่ 

ตอนที่เราเสียบสายชาร์จ ยังมองเห็นความคืบหน้าของการชาร์จผ่านเส้นหลอดไฟด้วย 

ฟังก์ชั่นนี้รวมๆ เรียกว่า Glyph Interface ซึ่งถือว่าเป็นของใหม่ในวงการมือถือ ยังไม่มีแบรนด์ไหนทำฟีเจอร์นี้มาก่อน 

ส่วนกล้อง ไม่ได้หวือหวาอะไรมาก Nothing Phone กลับมาสู่แนวคิดเดิมคือ ใช้กล้องหลังแค่สองตัว โดยให้เหตุผลว่า แบรนด์อื่นใช้แนวคิดกล้องยิ่งเยอะยิ่งดี แต่แทนที่จะเอากล้องธรรมดามารวมกันหลายอัน เราใช้แนวคิดเอากล้องที่ดีที่สุด แค่สองตัวก็เพียงพอแล้ว

กล้องหลักใช้เซนเซอร์ Sony IMX766 ขนาด 1/1.56 นิ้ว รูรับแสง f/1.88 และกล้อง Ultrawide ถ่ายกว้าง 114 องศา มีระบบกันสั่น dual OIS และ EIS โดยกล้องทั้งคู่อัดความละเอียดมาให้เท่ากันคือ 50 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้า ใช้พลังเซนเซอร์ Sony IMX471 ความละเอียด 16 MP

มาดูตัวอย่างรูปถ่ายกัน

ชิป Snapdragon 778G+ ซึ่งถือว่ายังไม่ใช่ชิปรุ่นท็อป แต่ก็ลดการทำให้เกิดความร้อนในตัวเครื่องได้ 

ตัวเครื่องมาพร้อมกับกรอบอลูมิเนียมรีไซเคิล, หน้าจอ OLED ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียด 1080×2400, รีเฟรชเรท 120 Hz ความสว่างสูงสุด 1,200 nits มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอ

ระบบปฏิบัติการใช้ Nothing OS ที่มีพื้นฐานมาจาก Android 12 นอกจากนี้ยังรับประกันอัพเดต Android 3 ปี อัพเดตแพตช์ความปลอดภัยอัพเดตให้ทุกๆ 2 เดือน เป็นเวลา 4 ปี

แบตเตอรี่ 4,500 mAh รองรับการชาร์จแบบมีสาย 33W (ชาร์จเต็มใน 70 นาที), การชาร์จแบบไร้สาย 15W (ชาร์จเต็มใน 120 นาที) และการชาร์จแบบไร้สาย 5W

ราคาเปิดตัวก็น่าสนใจ อยู่ที่ 18,900 บาท ถือว่าเป็นราคาที่หลายคนมองว่าสมเหตุสมผลกับสเปกมือถือรุ่นกลาง 

[ สรุป ]

เมื่อดูภาพรวมมือถือแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า Nothing Phone  มีจุดที่ต่างจากมือถือทั่วไปตรงที่ Glyph Interface แต่ก็อาจมีเสียงแตกอยู่บ้างว่า ไม่ได้ต่างจากคนอื่นมากนัก 

และที่สำคัญต้องไม่ลืมว่า วงการมือถือตอนนี้พยายามไปให้ไกลกว่ามือถือหน้าจอเต็ม ทรงเหลี่ยม มีหลายแบรนด์พยายามทำมือถือพับได้ อย่างซัมซุง หัวเว่ย 

หรือพยายามไปคอลแลบกับตัวการ์ตูน หรือศิลปิน เพื่อสร้างมือถือที่มีคาร์แรกเตอร์เฉพาะตัวออกมา ล่าสุด Nokia ทำมือถือที่ฝาหลังเป็นช่องเสียบหูฟังไร้สายได้ด้วย ดังนั้น Nothing Phone  จึงไม่ใช่รายเดียวที่พยายามสร้างความแตกต่างในตลาดมือถือที่เริ่มตันแล้ว 

Nothing Phone เปิดขายทางออนไลน์ (เช็กข้อมูลล่าสุด 09.00 วันที่ 13 ก.ค. ขึ้นผลว่า Out of Stock) และจะนำมาขายผ่าน Carnival Store ร้านรีเทลรวมรองเท้าแบรนด์ดัง ซึ่งต้องติดตามกับทางร้านค้าต่อไป 

ที่มา : https://www.gsmarena.com/nothing_phone_1_is_finally_fully…

https://th.nothing.tech/products/phone-1

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า